window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-HT69D45H8X');
ฟังเสียงหัวใจลูกสักนิด
เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว

ฟังเสียงหัวใจลูกสักนิด

ปัญหาการเรียนของลูกแก้ไขได้หากพ่อแม่เข้าใจสาเหตุ


รับผลสอบทีไร สิ่งที่จะได้ยินจากพวกเรา พ่อแม่บ่อยๆคือ "ลูกไม่ตั้งใจเรียน ต้องคอยเรียกให้ทำการบ้าน ไม่รับผิดชอบ สอบก็ไม่สนใจที่จะอ่านหนังสือ เอาแต่ดูหนังฟังเพลง เล่มเกม เล่นมือถือ แม่ต้องมาคอยจ้ำจี้จ้ำไช ทะเลาะกับลูกแทบทุกวัน เคี่ยวเข็ญให้อ่านหนังสือแทบตาย คอร์สเรียนพิเศษแพงๆ ก็จ่ายให้ แต่เกรดออกมากลับไม่ได้ดีตามที่หวัง ยึดมือถือ iPad ลูกก็โกรธ ทั้งเราทั้งลูกแทบจะไม่อยากคุยกัน ปกติแย่อยู่แล้ว ยิ่งช่วงสอบความสัมพันธ์ยิ่งแย่ไปหมด ทำไมลูกเราไม่เหมือนลูกบ้านอื่น ที่เค้าเรียนเก่งรับผิดชอบตัวเองได้บ้างนะ"


บ้านไหนที่เจอปัญหาแบบนี้ ก่อนอื่นขอให้ลองทบทวนดูนะคะ ว่าลูกเราต้องเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความรู้สึกเหล่านี้สะสมอยู่ในใจหรือไม่ ?


การเรียน…มีแต่คน “พร่ำบอกแต่ว่ามันยาก” ให้เลิกเล่นหรือทำแต่เรื่องไร้สาระที่เราชอบสักที ตั้งใจเรียนได้แล้ว ยิ่งทำให้ไม่ชอบและเบื่อการเรียน


การเรียน… “ทำให้ลูกหมดความมั่นใจในตัวเอง” โดนโมโหและบ่นอยู่ตลอด เพราะ คิดช้า เขียนช้า อ่านไม่เก่ง โดนบ่นโดนว่าต่อหน้าคนอื่นให้อับอายอยู่เสมอ


การเรียน … “ทำให้ลูกเป็นคนไม่ได้เรื่อง” ต้องโดนบังคับจัดตารางเวลาให้ทุกอย่าง ตัดสินใจทำอะไรเองไม่ได้ เพราะเราไม่มีวินัยและขาดความรับผิดชอบ


การเรียน.. “ทำให้ลูกโดนเปรียบเทียบ” กับพี่กับน้อง กับเพื่อน กับเด็กคนอื่นๆอยู่เสมอ


การเรียน …”ทำให้ลูกรู้สึกตัวเองไม่มีคุณค่า” ถ้าคะแนนดีพ่อแม่จะดีใจและภูมิใจ แต่ถ้าคะแนนน้อย จะทำพ่อแม่จะโกรธ ผิดหวัง อับอาย  คุณค่าของเราอยู่ที่คะแนนและเกรดเท่านั้น


การเรียน … “ทำให้พ่อแม่คาดหวัง”  ผลไม่ดีจะทำพ่อแม่จะผิดหวัง เรากลัวที่จะทำพ่อแม่จะผิดหวังเสียใจ


การเรียน...ทำให้รู้ว่า “ลูกไม่มีสิทธิทำตามความฝันของตัวเอง” ทั้งหมดที่ต้องทำคือ “เดินในทางที่ถูกกำหนดไว้แล้วเท่านั้น”


รับฟังเสียงของหัวใจของลูกสักนิดหากลูกของเราต้องเรียนท่ามกลางความรู้สึกเหล่านี้ ลูกตัวเล็กๆของเราจะมีจิตใจมั่นคงเข้มแข็งพอ จนสามารถฝืนก้าวข้ามความรู้สึกเหล่านี้ไป ทำใจให้รักการเรียนจนประสบความสำเร็จได้จริงๆหรือ ? 


การที่คนๆหนึ่ง จะรักและทุ่มเทในการทำสิ่งใดได้ ต้องเริ่มด้วยความรู้สึกที่ดีและเห็นคุณค่าในสิ่งที่กำลังทำ เพราะถึงแม้ถึงมันจะยากและไม่สนุก แต่หากเริ่มด้วยความรู้สึกที่ดี และมีคนที่เข้าใจคอยให้กำลังใจอยู่เคียงข้าง ก็จะ ฮึดสู้ ก้าวข้ามความรู้สึกต่างๆที่ผ่านเข้ามาทำต่อจนประสบความสำเร็จได้ 


เมื่อรับรู้ได้ถึงปัญหาแล้ว มาปรับและเปลี่ยนสร้างทัศนคติและความรู้สึกที่ดีในการเรียนเหล่านี้ให้ลูกกันนะคะ ไม่มีคำว่าสายเกินไปแน่นอน


การเรียน...ใครๆบอกว่า “ยากแต่ลูกทำได้” วันนี้ยังทำไม่ได้หรือไม่ดีพอก็ไม่เป็นไร ทุกคนพร้อมจะให้กำลังใจและเคียงข้าง พ่อแม่มั่นใจในตัวเรา หากตั้งใจและพยายาม เราจะทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆแน่นอน 


การเรียน…ทำให้ “ลูกได้เรียนรู้” นอกจากเนื้อหาที่เรียน เราเรียนเพื่อที่จะรู้จักตัวเองและผู้อื่น สามารถนำสิ่งที่เรียนไปใช้ประโยชน์กับตัวเองได้ในอนาคต


การเรียน... สอนให้ลูกรู้ว่า “ทุกคนแตกต่าง“ คนทุกคนมีความชอบและความถนัดที่ต่างกัน เรียนรู้ได้ช้าเร็วต่างกัน ไม่ต้องเปรียบเทียบกัน พ่อแม่เข้าใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือลูกเสมอ


การเรียน...”ทำให้ลูกเติบโต” เราคือคนที่ใช้ได้ เราสามารถฝึกระเบียบวินัย จนพ่อแม่ไว้ใจให้เราดูแลตัวเอง วางแผนแบ่งเวลาระหว่างการเรียนและเล่น ทำการบ้านและส่งงานตามเวลา โดยมีพ่อแม่เคียงข้างช่วยให้คำปรึกษา


การเรียน.. “ทำให้ลูกได้เรียนรู้จากความผิดพลาด” วันที่เราพลาดหรือทำผิดไป พ่อแม่จะไม่ซ้ำเติม แต่จะอยู่เคียงข้าง ช่วยให้เราได้เรียนรู้และแก้ไขความผิดพลาดนั้นไปด้วยกัน


การเรียน.. “ทำให้ลูกมีตัวตน” สามารถค้นหาว่าตัวเอง ชอบและไม่ชอบอะไร ควรจะส่งเสริมสิ่งที่ตัวเองชอบได้อย่างไร และ พัฒนาสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัดได้อย่างไร 


การเรียน .. “สร้างแรงบันดาลใจ” ลูกมีอิสระที่จะทำตามความฝันของตัวเอง โดยมีพ่อแม่เป็นลมใต้ปีกคอยพยุงพาลูกไปสู่จุดหมาย


การเรียน… “ทำให้รู้ว่าคุณค่าอยู่ที่ตัวลูก” พ่อแม่จะชื่นชมในความตั้งใจและความพยายามของลูกเสมอ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เพราะคะแนนเป็นเพียงวิธีการวัดผลอย่างหนึ่ง แต่ไม่ได้เป็นตัวตัดสินคุณค่าใดๆในตัวของลูกเลย 


การเรียน.. ”ทำให้รู้ว่าพ่อแม่คือคนที่รักลูกโดยไม่มีเงื่อนไข” มีเพียงความหวังดีที่มีให้ และไม่เคยตั้งความหวังใดๆ กับลูก เพียงเพื่อแลกกับการตอบแทนบุญคุณ 


เพราะการเรียนคือหนึ่งสิ่งที่สิ่งสำคัญมากๆในชีวิตของลูก เปิดโอกาสให้ลูกๆของเรามีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้ในทุกๆวันนะคะ ❤️


บทความโดย มัมมี่Bชวนเมาท์

ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดอยากฝึกฝนวิชาการเลี้ยงลูกเชิงบวก รู้จักสื่อสารกับลูกอย่างมีคุณภาพ อยากให้มาลองเรียนฟรีๆกับ www.netpama.com ดูนะคะ สามารถเรียนเมื่อไรที่ไหนก็ได้ มีตัวอย่างให้ดูเยอะมากกก บอกเลยว่าชีวิตเปลี่ยนแน่นอน

NET PaMa