“เมื่อลูกถามว่าสงครามคืออะไร?” ใช้โอกาสนี้ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความเข้าใจ
เมื่อ 17 ชั่วโมงที่แล้ว
“เมื่อลูกถามว่าสงครามคืออะไร?”
ใช้โอกาสนี้ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความเข้าใจ บทความโดย #น้องตัวกลม
.
วันหนึ่งลูกอาจเดินมาถามเราว่า…
“แม่ ทำไมคนต้องยิงกัน?”
“สงครามคืออะไร ทำไมคนในข่าวถึงต้องหนี?”
.
คำถามแบบนี้ฟังดูน่าตกใจ แต่ในยุคที่เด็กโตมากับ YouTube, TikTok และข่าวที่เด้งขึ้นมาเองอัตโนมัติ เด็กอาจเห็น “ภาพของสงคราม” โดยที่พ่อแม่ยังไม่ทันได้เตรียมใจ
.
สิ่งสำคัญคือ เราจะไม่รีบ “ปิด” หรือ “กลบ” คำถามเหล่านี้ แต่จะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นโอกาสสำคัญ
ในการสอนลูกให้ “เข้าใจโลก” และ “มีภูมิคุ้มกันทางใจ” โดยไม่ต้องหวาดกลัวหรือเกลียดชังใคร
---------------
จะอธิบาย “สงคราม” กับลูกยังไงดี?
1. เริ่มจากความจริง แบบไม่ต้องลงรายละเอียดรุนแรงเกินวัย
.
“สงครามคือเวลาที่คนบางกลุ่มหรือบางประเทศมีปัญหากัน แล้วเขาใช้วิธีแก้ปัญหาแบบที่เจ็บปวดที่สุด คือการใช้กำลัง ใช้อาวุธ แทนที่จะคุยกัน”
หลีกเลี่ยงคำอธิบายที่มีภาพสยองขวัญหรือใช้คำพูดที่ชี้นำความเกลียดชัง เช่น “คนเลวนั้นทำร้ายคนดีนี้” เพราะโลกของเด็กควรเริ่มต้นจากความเข้าใจ ไม่ใช่การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
.
แล้วจะสอนลูกให้เข้าใจ “ความขัดแย้ง” ยังไง?
2. ใช้สถานการณ์ในชีวิตประจำวันให้เป็นตัวอย่าง
.
“เวลาเราทะเลาะกับเพื่อน หรือพี่น้อง มันก็เหมือนปัญหาเล็กๆ ที่ถ้าไม่รีบคุยกัน น้องก็อาจจะมาตีหนูเพื่อแย่งของเล่น มันจะโตขึ้นเหมือนสงคราม”
“บางคนทะเลาะกันเพราะอยากได้ของเหมือนกัน บางคนเพราะกลัวเสียของที่ตัวเองมี… โลกก็เป็นแบบนั้นเลยลูก”
.
เมื่อเด็กเห็นว่าสิ่งใหญ่โตอย่างสงคราม คือการขยายของสิ่งที่เขาเคยรู้สึก เขาจะเริ่มเชื่อมโยงได้ โดยไม่ต้องรู้สึกไกลตัวหรือกลัวจนเกินไป
.
แล้วจะช่วยให้ลูกรับมือกับ “อารมณ์” ที่มากับสงครามได้ยังไง?
3. รับฟังและยืนยันความรู้สึก ไม่ต้องรีบแก้
.
“หนูกลัวใช่ไหมลูก… หนูรู้สึกเศร้าเวลาเห็นคนเจ็บใช่ไหมลูก”
“รู้มั้ย แม่เองก็รู้สึกแบบเดียวกันเลย”
.
เพียงแค่พ่อแม่รับฟังโดยไม่ตัดบท เช่น “ไม่ต้องกลัวหรอก” หรือ “อย่าคิดมาก เดี๋ยวเขาก็หยุดกันเอง” จะช่วยให้ลูกเรียนรู้ว่าความรู้สึกของเขานั้น “ถูกยอมรับ” และเขาไม่ต้องหลบซ่อนอารมณ์ของตัวเอง
.
และสิ่งสำคัญที่สุด ที่เด็กควรเรียนรู้จากสงคราม
4. ความหวัง ความเมตตา และพลังของคนตัวเล็ก
.
“แม้สงครามจะเริ่มจากคนไม่กี่คน แต่โลกก็ยังมีคนที่อยากให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสงบ”
“ลูกก็เป็นหนึ่งในนั้นได้นะลูก… ด้วยการพูดดี ไม่แกล้งเพื่อน ฟังคนที่ไม่เหมือนเรา และกล้าที่จะขอโทษเมื่อทำผิด”
.
เมื่อเราสื่อให้ลูกรู้ว่า เขา มีส่วน ในการสร้างโลกที่สงบได้ ลูกจะไม่รู้สึกสิ้นหวัง หรือเป็นเพียงเหยื่อของโลกที่โหดร้าย แต่จะเติบโตขึ้นพร้อม “พลังใจ” ที่อยากเป็นคนดีแม้โลกจะสับสน
---------------
สุดท้ายนี้ แม้ลูกจะถามว่า “สงครามคืออะไร?” อย่าเพิ่งรีบกลัวที่ลูกตั้งคำถาม
เพราะมันอาจไม่ใช่แค่คำถาม...แต่มันคือ “โอกาส” ที่ลูกกำลังยื่นมาให้พ่อแม่
ไม่ต้องรีบปิดข่าว ไม่ต้องรีบบอกว่า “ลูกยังเด็กเกินไป” แค่เรากล้าอยู่ข้างเขา พูดคุยด้วยใจ
และช่วยอธิบายให้เขา “เข้าใจความต่าง” โดยไม่ต้อง “แตกแยก”
.
“เราอาจหยุดสงครามไม่ได้ แต่เราสร้างคนที่ไม่เริ่มสงครามเพิ่มได้เสมอ”
.
พ่อแม่คือจุดเริ่มต้นของสันติภาพในใจลูก
การจะมีโลกที่สงบ ต้องเริ่มจากบ้านที่ลูกกล้าตั้งคำถาม และกล้า “ฟังคนที่ไม่เหมือนตัวเอง”
ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้…
Net PAMA ขอเป็นส่วนหนึ่ง ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว โดยทำให้ลูกรู้ถึง “คุณค่าในตัวเอง” กล้าเห็นต่าง แต่ไม่ต้องแตกแยก กล้าเผชิญความกลัว แต่ไม่ต้องก้าวร้าวตอบโต้
.
พ่อแม่สามารถ #เข้าเรียนออนไลน์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ในคอร์สจัดเต็มจากทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยาเด็ก
ได้ที่ www.netpama.com
ภายในคอร์สมีทั้งคลิปวิดีโอสั้นเข้าใจง่าย เรื่องราวสถานการณ์จริง และตัวอย่างคำพูด ที่นำไปใช้ได้เลยทันที ให้เราได้ช่วยคุณ ปลูกเมล็ดแห่งสันติในใจลูก ตั้งแต่วันนี้นะคะ
---------------
Ref
- Pfefferbaum, B., & North, C. S. (2020). Children and Families in the Shadow of War: Psychological Responses and Resilience.
- Fredrickson, B. L. (2001). The Role of Positive Emotions in Positive Psychology.
- Seligman, M. E. P. (2011). Flourish: A Visionary New Understanding of Happiness and Well-being.
.
Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก
Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม
#Netpama #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกเชิงบวก #สงคราม
ใช้โอกาสนี้ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความเข้าใจ บทความโดย #น้องตัวกลม
.
วันหนึ่งลูกอาจเดินมาถามเราว่า…
“แม่ ทำไมคนต้องยิงกัน?”
“สงครามคืออะไร ทำไมคนในข่าวถึงต้องหนี?”
.
คำถามแบบนี้ฟังดูน่าตกใจ แต่ในยุคที่เด็กโตมากับ YouTube, TikTok และข่าวที่เด้งขึ้นมาเองอัตโนมัติ เด็กอาจเห็น “ภาพของสงคราม” โดยที่พ่อแม่ยังไม่ทันได้เตรียมใจ
.
สิ่งสำคัญคือ เราจะไม่รีบ “ปิด” หรือ “กลบ” คำถามเหล่านี้ แต่จะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นโอกาสสำคัญ
ในการสอนลูกให้ “เข้าใจโลก” และ “มีภูมิคุ้มกันทางใจ” โดยไม่ต้องหวาดกลัวหรือเกลียดชังใคร
---------------

1. เริ่มจากความจริง แบบไม่ต้องลงรายละเอียดรุนแรงเกินวัย
.
“สงครามคือเวลาที่คนบางกลุ่มหรือบางประเทศมีปัญหากัน แล้วเขาใช้วิธีแก้ปัญหาแบบที่เจ็บปวดที่สุด คือการใช้กำลัง ใช้อาวุธ แทนที่จะคุยกัน”
หลีกเลี่ยงคำอธิบายที่มีภาพสยองขวัญหรือใช้คำพูดที่ชี้นำความเกลียดชัง เช่น “คนเลวนั้นทำร้ายคนดีนี้” เพราะโลกของเด็กควรเริ่มต้นจากความเข้าใจ ไม่ใช่การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
.

2. ใช้สถานการณ์ในชีวิตประจำวันให้เป็นตัวอย่าง
.
“เวลาเราทะเลาะกับเพื่อน หรือพี่น้อง มันก็เหมือนปัญหาเล็กๆ ที่ถ้าไม่รีบคุยกัน น้องก็อาจจะมาตีหนูเพื่อแย่งของเล่น มันจะโตขึ้นเหมือนสงคราม”
“บางคนทะเลาะกันเพราะอยากได้ของเหมือนกัน บางคนเพราะกลัวเสียของที่ตัวเองมี… โลกก็เป็นแบบนั้นเลยลูก”
.
เมื่อเด็กเห็นว่าสิ่งใหญ่โตอย่างสงคราม คือการขยายของสิ่งที่เขาเคยรู้สึก เขาจะเริ่มเชื่อมโยงได้ โดยไม่ต้องรู้สึกไกลตัวหรือกลัวจนเกินไป
.

3. รับฟังและยืนยันความรู้สึก ไม่ต้องรีบแก้
.
“หนูกลัวใช่ไหมลูก… หนูรู้สึกเศร้าเวลาเห็นคนเจ็บใช่ไหมลูก”
“รู้มั้ย แม่เองก็รู้สึกแบบเดียวกันเลย”
.
เพียงแค่พ่อแม่รับฟังโดยไม่ตัดบท เช่น “ไม่ต้องกลัวหรอก” หรือ “อย่าคิดมาก เดี๋ยวเขาก็หยุดกันเอง” จะช่วยให้ลูกเรียนรู้ว่าความรู้สึกของเขานั้น “ถูกยอมรับ” และเขาไม่ต้องหลบซ่อนอารมณ์ของตัวเอง
.

4. ความหวัง ความเมตตา และพลังของคนตัวเล็ก
.
“แม้สงครามจะเริ่มจากคนไม่กี่คน แต่โลกก็ยังมีคนที่อยากให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสงบ”
“ลูกก็เป็นหนึ่งในนั้นได้นะลูก… ด้วยการพูดดี ไม่แกล้งเพื่อน ฟังคนที่ไม่เหมือนเรา และกล้าที่จะขอโทษเมื่อทำผิด”
.
เมื่อเราสื่อให้ลูกรู้ว่า เขา มีส่วน ในการสร้างโลกที่สงบได้ ลูกจะไม่รู้สึกสิ้นหวัง หรือเป็นเพียงเหยื่อของโลกที่โหดร้าย แต่จะเติบโตขึ้นพร้อม “พลังใจ” ที่อยากเป็นคนดีแม้โลกจะสับสน
---------------
สุดท้ายนี้ แม้ลูกจะถามว่า “สงครามคืออะไร?” อย่าเพิ่งรีบกลัวที่ลูกตั้งคำถาม
เพราะมันอาจไม่ใช่แค่คำถาม...แต่มันคือ “โอกาส” ที่ลูกกำลังยื่นมาให้พ่อแม่
ไม่ต้องรีบปิดข่าว ไม่ต้องรีบบอกว่า “ลูกยังเด็กเกินไป” แค่เรากล้าอยู่ข้างเขา พูดคุยด้วยใจ
และช่วยอธิบายให้เขา “เข้าใจความต่าง” โดยไม่ต้อง “แตกแยก”
.
“เราอาจหยุดสงครามไม่ได้ แต่เราสร้างคนที่ไม่เริ่มสงครามเพิ่มได้เสมอ”
.

การจะมีโลกที่สงบ ต้องเริ่มจากบ้านที่ลูกกล้าตั้งคำถาม และกล้า “ฟังคนที่ไม่เหมือนตัวเอง”
ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้…

.

ในคอร์สจัดเต็มจากทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยาเด็ก


---------------
Ref
- Pfefferbaum, B., & North, C. S. (2020). Children and Families in the Shadow of War: Psychological Responses and Resilience.
- Fredrickson, B. L. (2001). The Role of Positive Emotions in Positive Psychology.
- Seligman, M. E. P. (2011). Flourish: A Visionary New Understanding of Happiness and Well-being.
.
Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก
Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม
#Netpama #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกเชิงบวก #สงคราม

เน็ตป๊าม้า ขอแนะนำหลักสูตรออนไลน์ สอนเทคนิคเชิงบวกในการปรับพฤติกรรมเด็ก
คอร์สเร่งรัด
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่มีพื้นฐานการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวกอยู่แล้ว
แต่ต้องการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเด็กที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
คอร์สจัดเต็ม
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเรียนรู้และฝึกใช้เทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็ก
อย่างเป็นขั้นบันได เพื่อเตรียมพร้อมที่จะนำไปรับมือกับปัญหาพฤติกรรมเด็ก
อย่างมั่นใจ