ซัพพอร์ตลูก(สาว)ยังไงดี เมื่อเขามีประจำเดือนครั้งแรก!
เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว
ซัพพอร์ตลูก(สาว)ยังไงดี เมื่อเขามีประจำเดือนครั้งแรก! บทความโดย #คุณนายข้าวกล่อง
.
ส่วนตัว #คุณนายข้าวกล่อง เชื่อเหลือเกินว่า ‘โมเมนต์ของ #การมีประจำเดือน’ ถือเป็นสิ่งที่หนักหนาสำหรับผู้หญิงอย่างเราหลายคน เพราะการมีประจำเดือนไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ (ที่มีเลือดออกมาจากช่องคลอด) อย่างเดียวเท่านั้น แต่มันพ่วงมากับการต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่ทำพวกเราหลายคนมีโมเมนต์เหนื่อยกับตัวเองพอสมควร หรือสำหรับบางคนอาจต้องเจอกับความทรมานจากการปวดประจำเดือนด้วย (period cramps) ซึ่งบอกเลยว่าหากคุณผู้หญิงท่านใดยังไม่เคยมีประสบการณ์นี้....เราถือว่าคุณคือหนึ่งในผู้โชคดีบนโลกใบนี้ที่ควรดีใจไว้เลยนะคะ เพราะมันแสนจะทรมานจริง ๆ
.
แล้วถ้าหากคุณคิดว่าแค่การมีประจำเดือนเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวแล้ว สำหรับคุณผู้หญิงท่านใดที่ตอนนี้ก็ทำหน้าที่เป็นคุณแม่ของ ‘ลูกสาว’ ด้วย เชื่อว่าเราบางคนก็คงแอบกังวลถึงลูกสาวของเราเหมือนกัน ว่าถ้าหากวันนั้นมาถึง เขาจะสามารถดีลกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ที่กำลังจะนำพาให้เขากลายเป็นสาวผู้เริ่มมีวุฒิภาวะได้ไหม แล้วจริง ๆ ในฐานะของคุณแม่ (รวมไปถึงเหล่าคุณพ่อด้วยนะคะ) มันมีวิธีการไหนไหมที่เราจะช่วยซัพพอร์ตวัยรุ่นแรกสาวเหล่านี้ได้บ้าง เพื่อให้เขาค่อย ๆ ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ กลายเป็นสาวอย่างแข็งแกร่งได้ต่อไป
.
วันนี้ #คุณนายข้าวกล่อง เลยจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจถึงมุมมองของ ‘โมเมนต์การมีประจำเดือนครั้งแรก’ ของเหล่าเด็กสาวกัน เพื่อให้เราเข้าใจตัวลูก ๆ ของเราได้มากขึ้น รวมถึงช่วยให้ไอเดียวิธีการซัพพอร์ตลูก ๆ ของเรา เพื่อให้ทั้งเราและลูกผ่านพ้นเรื่องนี้ได้ไปด้วยกันค่ะ!
.
#มุมมองของเด็ก (ทั้งกำลังจะเป็นและเป็น)สาวต่อการมีประจำเดือนครั้งแรก
ถึงแม้ว่างานวิจัยจะพบว่าเด็ก ๆ (ที่ก็ educate ในเรื่องของประจำเดือนประมาณหนึ่ง) ที่ยังไม่มีประจำเดือนจะมีมุมมองต่อการมีประจำเดือนไปในทิศทางที่ดี (แม้ว่าส่วนหนึ่งจะเพราะว่าเขาอาจยังไม่โต ทำให้อาจจินตนาการดีเกินจริงแต่ไม่อิงกับความเป็นจริงในชีวิต) เช่น มองว่าก็คงตกใจกับเหตุการณ์การมีประจำเดือนครั้งแรกนิดหน่อย แต่ก็มีความรู้สึกตื่นเต้นที่เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับตนเองเพราะจะได้กลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หรือมีความคิดว่าเราก็คงอาจแฮปปี้ได้แหละถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับเราจริง ๆ แต่มุมมองเหล่านี้คงใช้ไม่ได้เท่าไหร่นักกับกลุ่มเด็กหญิงที่มีผ่านการมีประจำเดือนครั้งแรกไปแล้ว มิหนำซ้ำเด็กผู้หญิงกลุ่มนี้คือกลุ่มที่แสดงทัศนคติเชิงลบต่อการมีประจำเดือนเป็นส่วนใหญ่ด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือส่วนใหญ่แล้วเด็กมักจะมีมุมมองที่แย่ ๆ ต่อการมีประจำเดือนเมื่อเขาเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกไปแล้ว โดยมักจะมองว่าการมีประจำเดือนเป็นสิ่งที่ขวางกั้นพวกเขาให้มีอิสรภาพในการใช้ชีวิต บางคนอาจมีความรู้สึกกลัว กังวล ไปจนถึงรู้สึกอับอายที่จะเจอกับสถานการณ์นี้ (เช่น กลัวว่าตนจะเตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องนี้ไม่ดีพอ หรือกลัวว่าเมนส์จะเปื้อนออกมาข้างนอก) จนอาจส่งผลต่อการมีความสัมพันธ์กับเพื่อนรวมไปถึงผู้คนในครอบครัวเองเพราะกลัวว่าพวกเขาจะมองตนไม่ดี
.
เช่น กังวลว่าเพื่อนจะรู้ไหมว่าเรามีเมนส์ ไปจนถึงเพื่อนจะยังโอเคกับเราไหมถ้ามีเมนส์ หรือถ้าเจาะในมุมของครอบครัว งานวิจัยพบว่าเด็กอาจกลัวว่าพ่อแม่จะรู้ว่าตนกำลังมีปัญหาอยู่ และกลัวว่าพ่อแม่จะแสดงความรู้สึกเป็นกังวลใจต่อตนจากเหตุการณ์นี้ เช่น กลัวว่าพ่อแม่จะถามว่าเรากลัวหรือตื่นตระหนกกับการมีประจำเดือนไหม (เลยมักจะพยายามปกปิดไว้ ไม่ให้เขารู้ว่าเรามีปัญหา) เพราะหากมองในอีกมุม แม้ว่าการที่พ่อแม่จะกังวลใจกับเรื่องนี้อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เพราะความเป็นห่วง แต่มันก็สะท้อนถึงมุมมองของผู้ปกครองที่มีต่อการมีประจำเดือนได้เช่นกันว่า ‘การมีประจำเดือนเป็นสิ่งที่แย่เพราะมันน่ากังวล’
.
นอกจากนี้ งานวิจัยยังบอกด้วยว่าสำหรับในมุมความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับคุณพ่อ เด็ก ๆ มองว่าคุณพ่อมีความรู้สึก ignore หรือความรู้สึก ‘ไม่อยากยุ่งเกี่ยว’ กับเรื่องของการมีประจำเดือน ซึ่งมุมมองนี้อาจยิ่งทำให้เด็ก ๆ รู้สึกแย่ต่อการมีประจำเดือนได้ด้วยเช่นกัน และอาจเป็นเหตุผลที่เด็ก ๆ จะเลือกบอกคุณแม่เรื่องนี้เสียมากกว่า
.
และหากเจาะลึกไปในงานวิจัยคนไทย พบว่าเด็กสาวไทยก็มีทัศนคติต่อการมีประจำเดือนที่ไม่ค่อยดีด้วยเช่นกัน โดยพบว่านอกจากเด็ก ๆ จะมองว่าการมีเมนส์ทำให้ใช้ชีวิตยาก หรือขัดขวางอิสระในการใช้ชีวิตแล้ว บางคนยังมองด้วยว่าเลือดที่ออกจากช่องคลอดเป็นสิ่งสกปรก ทำให้ขยะแขยงเลือดจากประจำเดือน ไปจนถึงขั้นว่าอยากเกิดเป็นผู้ชายเพราะไม่ต้องมีประจำเดือนเลยก็มี รวมถึงเด็ก ๆ เหล่านี้ก็มีความอายที่จะบอกคนอื่นว่ามีประจำเดือนเหมือนกัน แถมมีเด็กบางส่วนที่ก็ยังไม่เคยบอกเรื่องการมีประจำเดือนให้ใครรู้ด้วย แม้กระทั่งตัวผู้ปกครองของตนเอง งานวิจัยในไทยจึงยิ่งชี้ให้เห็นว่านอกจากประจำเดือนจะถูกตีตราเป็นสิ่งที่แย่ในสังคมไทยเฉกเช่นเดียวกับสังคมประเทศอื่น ๆ แล้ว เด็กบางคนก็ยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับประจำเดือนที่ไม่ถูกต้องเสียทีเดียวด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ยิ่งส่งผลทำให้มีมุมมองต่อประจำเดือนแย่เข้าไปอีก ทั้ง ๆ ที่มันก็เป็นสิ่งธรรมชาติที่มนุษย์ผู้หญิงอย่างเราทุกคนต้องเจอ
.
#ซัพพอร์ตอย่างไรที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ ในมุมมองของ #คุณนายข้าวกล่อง
จากข้อมูลวิจัยข้างต้น อาจทำให้เห็นว่านอกจากการเตรียมพร้อมเด็ก ๆ ให้รู้จักการมีประจำเดือนด้วยข้อมูลที่ถูกต้องก่อนวัยประจำเดือนจะเป็นเรื่องสำคัญแล้ว (ที่งานวิจัยหลายชิ้นก็ให้เสียงตรงกันว่ามีส่วนช่วยต่อการรับมือกับเหตุการณ์นี้มาก ๆ) ‘การซัพพอร์ตจิตใจเด็ก ๆ หลังจากมีประจำเดือนครั้งแรก’ ก็ดูจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเราชาวผู้ปกครองที่ต้องดูแลลูกไม่แพ้กันเลย เพราะทัศนคติที่แย่ต่าง ๆ ดูมักจะเกิดขึ้นในช่วงหลังจากการเผชิญกับเรื่องราวนี้เสียส่วนใหญ่ เพราะประสบการณ์การมีประจำเดือนมันก็ไม่ค่อยจะทำให้เรารู้สึกสะดวกสบายกายและใจเท่าไหร่หากพูดตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เลยคงไม่แปลกที่บางทีพวกเขาจะมีมุมมองเชิงลบกับเรื่องนี้อย่างเข้าใจได้ เฉกเช่นเดียวกันกับพวกเราในฐานะคุณแม่หลาย ๆ คนที่เจอกับสถานการณ์นี้ รวมไปถึงเหล่าคุณพ่อเองที่บางทีก็ empathy ความรู้สึก suffer จากสถานการณ์นี้ของภรรยาได้เช่นกัน
.
แต่ความน่าสนใจอีกอย่างก็คือ แม้เราอาจรู้สึกแย่ต่อการมีประจำเดือนอย่างเข้าใจได้ แต่ที่การมีประจำเดือนมันทำให้เด็กสาวบางท่านรู้สึกแย่ได้มาก ๆ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน มันก็อาจมีผลมาจาก ‘การที่สังคมตีความว่ามันเป็นสิ่งไม่ดีด้วยเช่นกัน’ เพราะสิ่งนี้ทำให้คนทุกคนมีมุมมองต่อประจำเดือนในทิศทางลบ ซึ่งก็อาจส่งผลทำให้คนที่มีจะรู้สึกแปลกแยก หรือมีความรู้สึกอายที่ต้องเจอกับสภาวะทางร่างกายที่เปลี่ยนแปลงนี้ (เพราะคนเขาไม่ชอบกัน) ทั้ง ๆ ที่แม้เราต่างรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิง แต่บางทีชุดความคิดความเชื่อนี้มันก็สอดแทรกอยู่ในตัวเราแบบไม่รู้ตัวจริง ๆ ซึ่งอาจปลูกฝังทำให้เรา ‘ต้องกังวลกับเรื่องของประจำเดือน’ และแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมอย่างเช่นการถามเพราะเป็นห่วง หรือการพยายามหลีกเลี่ยงไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ของฝั่งผู้ชายเองที่อาจยิ่งทำให้ลูกผู้หญิงรู้สึกแย่ต่อการมีประจำเดือน
.
‘การสื่อสารว่าประจำเดือนเป็นเรื่องปกติที่ไม่น่ากังวลขนาดนั้น’ จึงอาจเป็นสิ่งที่คุณนายข้าวกล่องมองว่าพวกเราชาวผู้ปกครองสามารถทำได้เช่นกันนอกเหนือจากการให้ข้อมูลพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องเกี่ยวกับประจำเดือน รวมไปถึงการดูแลสุขอนามัยและการเตรียมรับมือกับประจำเดือน เพื่อทำให้ลดความรู้สึกแย่ต่อประจำเดือน หรือรู้สึกอับอายเมื่อมีประจำเดือนอย่างไม่จำเป็น ซึ่งการสื่อสารนี้ก็สามารถทำได้หลายแบบ ไม่ว่าจะกับการพูดให้ข้อมูลตรง ๆ กับลูกถึงอิทธิพลทางสังคมที่ทำให้เราต้องอายเมื่อมีประจำเดือน หรือจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การพูดเรื่องประจำเดือนในครอบครัวที่มีคุณพ่ออยู่ด้วยเพื่อทำให้มันเป็นเรื่องปกติมากขึ้นในชีวิต หรือการส่งเสริมให้ลูกยังคงทำกิจวัตรประจำวันของตนเองต่อไปหลังจากมีประจำเดือนครั้งแรกเพื่อทำให้เขาเรียนรู้ว่ามันโอเคที่ใช้ชีวิตแม้มีประจำเดือน
.
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าเราสามารถใช้ #การสื่อสารเชิงบวก เพื่อช่วยให้เราสามารถสื่อสารประเด็นที่ละเอียดอ่อนนี้ต่อเด็ก ๆ ของเราได้เช่นเดียวกัน เพราะแม้ว่าเรื่องของประจำเดือนเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องให้ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องจริง ๆ แต่การสื่อสารที่ทำให้ลูกรับรู้ถึง emotional support ของตัวคุณพ่อคุณแม่เอง หรือทำให้ลูกเข้าใจว่าเราเข้าใจถึงความ suffer ของเขา มันก็เป็นสิ่งจำเป็นไม่แพ้กันที่จะทำให้เขากล้าที่จะยอมแชร์หรือเล่าเรื่องราวที่ละเอียดอ่อนนี้อย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้ฟรีที่ www.netpama.com ได้เลยค่ะ
.
อ้างอิง
สร้อย อนุสรณ์ธีรกุล, พร้อมจิตร ห่อนบุญเหิม, และสุชาดา สุวรรณคำ (2542). ลักษณะการมีประจำเดือนในสตรีวัยรุ่น: ปัญหาการดูแลตัวเอง. วารสารวิจัย มข., 4(1), 67-77
Koff, E., Rierdan, J., & Jacobson, S. (1981). The personal and interpersonal significance of menarche. Journal of the American Academy of Child Psychiatry, 20(1), 148-158.
Marianti, L., Kushendar, K., & Fitri, H. U. (2022). Parenting information for parents: Efforts to prepare children to experience menarche in prepubertal young girls. KONSELI: Jurnal Bimbingan dan Konseling (E-Journal), 9(2), 201-208.
Sari, E. P. (2020). the Relationship Between Family Support and the Readiness of the Menarche in Young Women. Nurse and Health: Jurnal Keperawatan, 9(2), 145-151.
https://www.unicef.org/rosa/stories/how-support-your-daughter-her-first-period?fbclid=IwY2xjawKYzddleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFJc3VRSzNGeXVlbU5Vd29KAR7pXFarlM_PNeuFYsNsomwxJ9gQZqVNwXG4naOayaV9grCawj7BiSWs_ms88w_aem_SSC3PITL1ja7774og4vTpg
Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก
Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม
#Netpama #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกเชิงบวก
.
ส่วนตัว #คุณนายข้าวกล่อง เชื่อเหลือเกินว่า ‘โมเมนต์ของ #การมีประจำเดือน’ ถือเป็นสิ่งที่หนักหนาสำหรับผู้หญิงอย่างเราหลายคน เพราะการมีประจำเดือนไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ (ที่มีเลือดออกมาจากช่องคลอด) อย่างเดียวเท่านั้น แต่มันพ่วงมากับการต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่ทำพวกเราหลายคนมีโมเมนต์เหนื่อยกับตัวเองพอสมควร หรือสำหรับบางคนอาจต้องเจอกับความทรมานจากการปวดประจำเดือนด้วย (period cramps) ซึ่งบอกเลยว่าหากคุณผู้หญิงท่านใดยังไม่เคยมีประสบการณ์นี้....เราถือว่าคุณคือหนึ่งในผู้โชคดีบนโลกใบนี้ที่ควรดีใจไว้เลยนะคะ เพราะมันแสนจะทรมานจริง ๆ
.
แล้วถ้าหากคุณคิดว่าแค่การมีประจำเดือนเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวแล้ว สำหรับคุณผู้หญิงท่านใดที่ตอนนี้ก็ทำหน้าที่เป็นคุณแม่ของ ‘ลูกสาว’ ด้วย เชื่อว่าเราบางคนก็คงแอบกังวลถึงลูกสาวของเราเหมือนกัน ว่าถ้าหากวันนั้นมาถึง เขาจะสามารถดีลกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ที่กำลังจะนำพาให้เขากลายเป็นสาวผู้เริ่มมีวุฒิภาวะได้ไหม แล้วจริง ๆ ในฐานะของคุณแม่ (รวมไปถึงเหล่าคุณพ่อด้วยนะคะ) มันมีวิธีการไหนไหมที่เราจะช่วยซัพพอร์ตวัยรุ่นแรกสาวเหล่านี้ได้บ้าง เพื่อให้เขาค่อย ๆ ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ กลายเป็นสาวอย่างแข็งแกร่งได้ต่อไป
.
วันนี้ #คุณนายข้าวกล่อง เลยจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจถึงมุมมองของ ‘โมเมนต์การมีประจำเดือนครั้งแรก’ ของเหล่าเด็กสาวกัน เพื่อให้เราเข้าใจตัวลูก ๆ ของเราได้มากขึ้น รวมถึงช่วยให้ไอเดียวิธีการซัพพอร์ตลูก ๆ ของเรา เพื่อให้ทั้งเราและลูกผ่านพ้นเรื่องนี้ได้ไปด้วยกันค่ะ!
.
#มุมมองของเด็ก (ทั้งกำลังจะเป็นและเป็น)สาวต่อการมีประจำเดือนครั้งแรก
ถึงแม้ว่างานวิจัยจะพบว่าเด็ก ๆ (ที่ก็ educate ในเรื่องของประจำเดือนประมาณหนึ่ง) ที่ยังไม่มีประจำเดือนจะมีมุมมองต่อการมีประจำเดือนไปในทิศทางที่ดี (แม้ว่าส่วนหนึ่งจะเพราะว่าเขาอาจยังไม่โต ทำให้อาจจินตนาการดีเกินจริงแต่ไม่อิงกับความเป็นจริงในชีวิต) เช่น มองว่าก็คงตกใจกับเหตุการณ์การมีประจำเดือนครั้งแรกนิดหน่อย แต่ก็มีความรู้สึกตื่นเต้นที่เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับตนเองเพราะจะได้กลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หรือมีความคิดว่าเราก็คงอาจแฮปปี้ได้แหละถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับเราจริง ๆ แต่มุมมองเหล่านี้คงใช้ไม่ได้เท่าไหร่นักกับกลุ่มเด็กหญิงที่มีผ่านการมีประจำเดือนครั้งแรกไปแล้ว มิหนำซ้ำเด็กผู้หญิงกลุ่มนี้คือกลุ่มที่แสดงทัศนคติเชิงลบต่อการมีประจำเดือนเป็นส่วนใหญ่ด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือส่วนใหญ่แล้วเด็กมักจะมีมุมมองที่แย่ ๆ ต่อการมีประจำเดือนเมื่อเขาเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกไปแล้ว โดยมักจะมองว่าการมีประจำเดือนเป็นสิ่งที่ขวางกั้นพวกเขาให้มีอิสรภาพในการใช้ชีวิต บางคนอาจมีความรู้สึกกลัว กังวล ไปจนถึงรู้สึกอับอายที่จะเจอกับสถานการณ์นี้ (เช่น กลัวว่าตนจะเตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องนี้ไม่ดีพอ หรือกลัวว่าเมนส์จะเปื้อนออกมาข้างนอก) จนอาจส่งผลต่อการมีความสัมพันธ์กับเพื่อนรวมไปถึงผู้คนในครอบครัวเองเพราะกลัวว่าพวกเขาจะมองตนไม่ดี
.
เช่น กังวลว่าเพื่อนจะรู้ไหมว่าเรามีเมนส์ ไปจนถึงเพื่อนจะยังโอเคกับเราไหมถ้ามีเมนส์ หรือถ้าเจาะในมุมของครอบครัว งานวิจัยพบว่าเด็กอาจกลัวว่าพ่อแม่จะรู้ว่าตนกำลังมีปัญหาอยู่ และกลัวว่าพ่อแม่จะแสดงความรู้สึกเป็นกังวลใจต่อตนจากเหตุการณ์นี้ เช่น กลัวว่าพ่อแม่จะถามว่าเรากลัวหรือตื่นตระหนกกับการมีประจำเดือนไหม (เลยมักจะพยายามปกปิดไว้ ไม่ให้เขารู้ว่าเรามีปัญหา) เพราะหากมองในอีกมุม แม้ว่าการที่พ่อแม่จะกังวลใจกับเรื่องนี้อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เพราะความเป็นห่วง แต่มันก็สะท้อนถึงมุมมองของผู้ปกครองที่มีต่อการมีประจำเดือนได้เช่นกันว่า ‘การมีประจำเดือนเป็นสิ่งที่แย่เพราะมันน่ากังวล’
.
นอกจากนี้ งานวิจัยยังบอกด้วยว่าสำหรับในมุมความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับคุณพ่อ เด็ก ๆ มองว่าคุณพ่อมีความรู้สึก ignore หรือความรู้สึก ‘ไม่อยากยุ่งเกี่ยว’ กับเรื่องของการมีประจำเดือน ซึ่งมุมมองนี้อาจยิ่งทำให้เด็ก ๆ รู้สึกแย่ต่อการมีประจำเดือนได้ด้วยเช่นกัน และอาจเป็นเหตุผลที่เด็ก ๆ จะเลือกบอกคุณแม่เรื่องนี้เสียมากกว่า
.
และหากเจาะลึกไปในงานวิจัยคนไทย พบว่าเด็กสาวไทยก็มีทัศนคติต่อการมีประจำเดือนที่ไม่ค่อยดีด้วยเช่นกัน โดยพบว่านอกจากเด็ก ๆ จะมองว่าการมีเมนส์ทำให้ใช้ชีวิตยาก หรือขัดขวางอิสระในการใช้ชีวิตแล้ว บางคนยังมองด้วยว่าเลือดที่ออกจากช่องคลอดเป็นสิ่งสกปรก ทำให้ขยะแขยงเลือดจากประจำเดือน ไปจนถึงขั้นว่าอยากเกิดเป็นผู้ชายเพราะไม่ต้องมีประจำเดือนเลยก็มี รวมถึงเด็ก ๆ เหล่านี้ก็มีความอายที่จะบอกคนอื่นว่ามีประจำเดือนเหมือนกัน แถมมีเด็กบางส่วนที่ก็ยังไม่เคยบอกเรื่องการมีประจำเดือนให้ใครรู้ด้วย แม้กระทั่งตัวผู้ปกครองของตนเอง งานวิจัยในไทยจึงยิ่งชี้ให้เห็นว่านอกจากประจำเดือนจะถูกตีตราเป็นสิ่งที่แย่ในสังคมไทยเฉกเช่นเดียวกับสังคมประเทศอื่น ๆ แล้ว เด็กบางคนก็ยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับประจำเดือนที่ไม่ถูกต้องเสียทีเดียวด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ยิ่งส่งผลทำให้มีมุมมองต่อประจำเดือนแย่เข้าไปอีก ทั้ง ๆ ที่มันก็เป็นสิ่งธรรมชาติที่มนุษย์ผู้หญิงอย่างเราทุกคนต้องเจอ
.
#ซัพพอร์ตอย่างไรที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ ในมุมมองของ #คุณนายข้าวกล่อง
จากข้อมูลวิจัยข้างต้น อาจทำให้เห็นว่านอกจากการเตรียมพร้อมเด็ก ๆ ให้รู้จักการมีประจำเดือนด้วยข้อมูลที่ถูกต้องก่อนวัยประจำเดือนจะเป็นเรื่องสำคัญแล้ว (ที่งานวิจัยหลายชิ้นก็ให้เสียงตรงกันว่ามีส่วนช่วยต่อการรับมือกับเหตุการณ์นี้มาก ๆ) ‘การซัพพอร์ตจิตใจเด็ก ๆ หลังจากมีประจำเดือนครั้งแรก’ ก็ดูจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเราชาวผู้ปกครองที่ต้องดูแลลูกไม่แพ้กันเลย เพราะทัศนคติที่แย่ต่าง ๆ ดูมักจะเกิดขึ้นในช่วงหลังจากการเผชิญกับเรื่องราวนี้เสียส่วนใหญ่ เพราะประสบการณ์การมีประจำเดือนมันก็ไม่ค่อยจะทำให้เรารู้สึกสะดวกสบายกายและใจเท่าไหร่หากพูดตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เลยคงไม่แปลกที่บางทีพวกเขาจะมีมุมมองเชิงลบกับเรื่องนี้อย่างเข้าใจได้ เฉกเช่นเดียวกันกับพวกเราในฐานะคุณแม่หลาย ๆ คนที่เจอกับสถานการณ์นี้ รวมไปถึงเหล่าคุณพ่อเองที่บางทีก็ empathy ความรู้สึก suffer จากสถานการณ์นี้ของภรรยาได้เช่นกัน
.
แต่ความน่าสนใจอีกอย่างก็คือ แม้เราอาจรู้สึกแย่ต่อการมีประจำเดือนอย่างเข้าใจได้ แต่ที่การมีประจำเดือนมันทำให้เด็กสาวบางท่านรู้สึกแย่ได้มาก ๆ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน มันก็อาจมีผลมาจาก ‘การที่สังคมตีความว่ามันเป็นสิ่งไม่ดีด้วยเช่นกัน’ เพราะสิ่งนี้ทำให้คนทุกคนมีมุมมองต่อประจำเดือนในทิศทางลบ ซึ่งก็อาจส่งผลทำให้คนที่มีจะรู้สึกแปลกแยก หรือมีความรู้สึกอายที่ต้องเจอกับสภาวะทางร่างกายที่เปลี่ยนแปลงนี้ (เพราะคนเขาไม่ชอบกัน) ทั้ง ๆ ที่แม้เราต่างรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิง แต่บางทีชุดความคิดความเชื่อนี้มันก็สอดแทรกอยู่ในตัวเราแบบไม่รู้ตัวจริง ๆ ซึ่งอาจปลูกฝังทำให้เรา ‘ต้องกังวลกับเรื่องของประจำเดือน’ และแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมอย่างเช่นการถามเพราะเป็นห่วง หรือการพยายามหลีกเลี่ยงไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ของฝั่งผู้ชายเองที่อาจยิ่งทำให้ลูกผู้หญิงรู้สึกแย่ต่อการมีประจำเดือน
.
‘การสื่อสารว่าประจำเดือนเป็นเรื่องปกติที่ไม่น่ากังวลขนาดนั้น’ จึงอาจเป็นสิ่งที่คุณนายข้าวกล่องมองว่าพวกเราชาวผู้ปกครองสามารถทำได้เช่นกันนอกเหนือจากการให้ข้อมูลพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องเกี่ยวกับประจำเดือน รวมไปถึงการดูแลสุขอนามัยและการเตรียมรับมือกับประจำเดือน เพื่อทำให้ลดความรู้สึกแย่ต่อประจำเดือน หรือรู้สึกอับอายเมื่อมีประจำเดือนอย่างไม่จำเป็น ซึ่งการสื่อสารนี้ก็สามารถทำได้หลายแบบ ไม่ว่าจะกับการพูดให้ข้อมูลตรง ๆ กับลูกถึงอิทธิพลทางสังคมที่ทำให้เราต้องอายเมื่อมีประจำเดือน หรือจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การพูดเรื่องประจำเดือนในครอบครัวที่มีคุณพ่ออยู่ด้วยเพื่อทำให้มันเป็นเรื่องปกติมากขึ้นในชีวิต หรือการส่งเสริมให้ลูกยังคงทำกิจวัตรประจำวันของตนเองต่อไปหลังจากมีประจำเดือนครั้งแรกเพื่อทำให้เขาเรียนรู้ว่ามันโอเคที่ใช้ชีวิตแม้มีประจำเดือน
.
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าเราสามารถใช้ #การสื่อสารเชิงบวก เพื่อช่วยให้เราสามารถสื่อสารประเด็นที่ละเอียดอ่อนนี้ต่อเด็ก ๆ ของเราได้เช่นเดียวกัน เพราะแม้ว่าเรื่องของประจำเดือนเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องให้ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องจริง ๆ แต่การสื่อสารที่ทำให้ลูกรับรู้ถึง emotional support ของตัวคุณพ่อคุณแม่เอง หรือทำให้ลูกเข้าใจว่าเราเข้าใจถึงความ suffer ของเขา มันก็เป็นสิ่งจำเป็นไม่แพ้กันที่จะทำให้เขากล้าที่จะยอมแชร์หรือเล่าเรื่องราวที่ละเอียดอ่อนนี้อย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้ฟรีที่ www.netpama.com ได้เลยค่ะ
.
อ้างอิง
สร้อย อนุสรณ์ธีรกุล, พร้อมจิตร ห่อนบุญเหิม, และสุชาดา สุวรรณคำ (2542). ลักษณะการมีประจำเดือนในสตรีวัยรุ่น: ปัญหาการดูแลตัวเอง. วารสารวิจัย มข., 4(1), 67-77
Koff, E., Rierdan, J., & Jacobson, S. (1981). The personal and interpersonal significance of menarche. Journal of the American Academy of Child Psychiatry, 20(1), 148-158.
Marianti, L., Kushendar, K., & Fitri, H. U. (2022). Parenting information for parents: Efforts to prepare children to experience menarche in prepubertal young girls. KONSELI: Jurnal Bimbingan dan Konseling (E-Journal), 9(2), 201-208.
Sari, E. P. (2020). the Relationship Between Family Support and the Readiness of the Menarche in Young Women. Nurse and Health: Jurnal Keperawatan, 9(2), 145-151.
https://www.unicef.org/rosa/stories/how-support-your-daughter-her-first-period?fbclid=IwY2xjawKYzddleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFJc3VRSzNGeXVlbU5Vd29KAR7pXFarlM_PNeuFYsNsomwxJ9gQZqVNwXG4naOayaV9grCawj7BiSWs_ms88w_aem_SSC3PITL1ja7774og4vTpg
Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก
Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม
#Netpama #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกเชิงบวก
เน็ตป๊าม้า ขอแนะนำหลักสูตรออนไลน์ สอนเทคนิคเชิงบวกในการปรับพฤติกรรมเด็ก
คอร์สเร่งรัด
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่มีพื้นฐานการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวกอยู่แล้ว
แต่ต้องการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเด็กที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
คอร์สจัดเต็ม
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเรียนรู้และฝึกใช้เทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็ก
อย่างเป็นขั้นบันได เพื่อเตรียมพร้อมที่จะนำไปรับมือกับปัญหาพฤติกรรมเด็ก
อย่างมั่นใจ
