วิธีเป็นโค้ชพ่อแม่ ที่ปรึกษาที่ดีที่ลูก ๆ อยากเข้าหา
เมื่อ 1 สัปดาห์ที่แล้ว
วิธีเป็นโค้ชพ่อแม่ ที่ปรึกษาที่ดีที่ลูก ๆ อยากเข้าหา บทความโดย #แม่มิ่ง
.
เมื่อพ่อแม่มี Mindset ที่ดี หรือมีกระบวนการคิดในเชิงบวก พ่อแม่มีความสุข ลูกก็มีความสุขตามไปด้วย เมื่อก่อนเรามักจะได้ยินคำว่า พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก ที่ให้ความรัก ความรู้ สั่งสอนอบรม ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่พื้นฐานของพ่อแม่ แต่ในยุคปัจจุบันสังคมที่มีความซับซ้อน หลากหลาย และเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว การเรียนรู้ของลูกไม่ได้จำกัดเพียงแค่ส่งลูกไปโรงเรียนเท่านั้น โดยเฉพาะตั้งแต่ยุคโควิด – 19 ที่ทุกคนต้อง Work From Home (WFH) ทำให้ทุกคนตระหนักแล้วว่า การเรียนไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในห้องเรียน หรือในโรงเรียนอีกต่อไป แต่บ้านควรเป็นสถานที่รองรับที่ลูกจะสามารถศึกษาเล่าเรียน แม้ในช่วงเวลานั้นจะมีพ่อแม่เป็นครูจำเป็นก็ตาม นี่คือสัญญาเตือนให้พ่อแม่ต้องเตรียมพร้อมการปรับบทบาทของตนเองเพื่อลูก เพราะเราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นอีก
.
บทความนี้จึงชวนพ่อแม่ปรับบทบาทการที่ไม่ใช่เพียงพ่อแม่ที่ปกครองลูกเท่านั้น แต่เราจะทำหน้าที่ประคองลูกแบบผู้ให้คำปรึกษาที่เรียกว่า โค้ชพ่อแม่ ที่ปรึกษาที่ดีที่ลูก ๆ อยากเข้าหา
.
พ่อแม่ = โค้ช
การปรับเปลี่ยนบทบาทจากพ่อแม่ สู่การเป็นโค้ช อาจเกิดความสงสัยและไม่มั่นใจตนเองว่า เราจะเป็นโค้ชที่ดีให้ลูกได้หรือ แท้ที่จริงแล้วพ่อแม่ทุกคนเป็นโค้ชที่ดีให้ลูกได้และคงไม่มีใครทำหน้าที่นี้ดีไปกว่าพ่อแม่อีกแล้ว ลองสังเกตนะคะ นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ จะพบว่า โค้ชและนักกีฬาจะเป็นทีมเดียวกัน แม้จะมีความอาวุโสต่างกัน แต่มีความสนิทสนม เข้าใจ คล้ายกับเป็นเพื่อนรุ่นพี่
.
หากมองภาพลูกและพ่อแม่ แน่นอนว่า คงทำให้เรานึกภาพของการอยู่ในพื้นที่การเคารพมากกว่าความสนิทสนม แต่จะดีหรือไม่หากพ่อแม่อยากเห็นลูกประสบความสำเร็จ ช่วยให้ลูกเข้าใจและค้นหาศักยภาพของตนเองได้ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปพร้อมกัน!! มาปรับเปลี่ยนบทบาทด้วยการเป็นโค้ชพ่อแม่ที่ปรึกษาที่ดีที่ลูก ๆ อยากเข้าหา
.
จุดเริ่มต้น
เริ่มที่การปรับทัศนคติของตนเองที่ว่า “ฉันเป็นพ่อแม่ ลูกต้องเชื่อฟังและทำตามคำสั่งสอนของฉันเท่านั้น” มาเป็น “ที่ปรึกษาที่ดีที่ลูกสามารถนำคำแนะนำของฉันไปพิจารณาและเลือกให้เหมาะสมกับตนเอง” Mindset หรือทัศนคตินี้จะเกิดขึ้นได้ เมื่อพ่อแม่เริ่มที่เชื่อมั่นในตนเอง เชื่อมั่นในตัวลูก พร้อมให้ลูกลองผิดลองถูก เพื่อสร้าง Grit หรือสร้างปัจจัยให้ลูกประสบความสำเร็จด้วยการลงมือทำอย่างไม่ย่อท้อ แม้จะต้องใช้ระยะเวลานานเป็นเดือน เป็นปีก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญมากในยุคปัจุบันหากอยากประสบความสำเร็จ รวมถึง การยอมรับความผิดพลาดผิดหวังแบบ “ลูกล้มได้นะ แต่ลูกต้องลูกยืนให้เป็นและลุกยืนให้ไว” มาดูกันว่า คุณพ่อคุณแม่จะเป็นโค้ชที่ปรึกษาที่ดีให้ลูกได้อย่างไร
.
วิธีเป็นโค้ชพ่อแม่ ที่ปรึกษาที่ดีที่ลูก ๆ อยากเข้าหา
#ฟังอย่างตั้งใจ (active listening)
เรียกได้ว่า เป็นประตูที่เปิดถึงหัวใจของลูกด้วยการฟัง เรียกว่า ฟังด้วยใจ ไม่ใช่แค่หู ฟังอย่างไม่ตัดสิน ฟังให้หมด ให้ครบถ้อยคำที่ลูกเล่า โดยไม่ขัด ไม่ตัดสิน ไม่รีบสอนหรือด่วนสรุป
.
#คำถามปลายเปิด (open-ended questions)
การใช้คำถามปลายเปิดถามกลับด้วยท่าทีที่อบอุ่นและเป็นมิตร เพื่อกระตุ้นให้ลูกได้คิด วิเคราะห์ถึงเรื่องราวหรือการกระทำ รวมถึงสะท้อนความรู้สึกที่แท้จริง เช่น ในตอนที่เกิดเรื่อง ลูกรู้สึกยังไง แม่อยากเข้าใจมุมของลูกมากกว่านี้” หรือ “พ่อเห็นลูกสนิทกับเพื่อนคนนี้มาก อะไรที่ทำให้ลูกชอบเพื่อนคนนี้เล่าให้พ่อแม่ฟังหน่อย”
.
การใช้คำถามไม่ควรชี้นำ เจาะจง ควบคุมตามความคิดของพ่อแม่เพราะไม่ฝึกให้ลูกคิดด้วยตนเอง เช่น “ลูกคิดว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง” ไม่ใช่ “ทำไมถึงไม่แก้ปัญหาแบบนี้ล่ะ ดีกว่าเยอะเลย”
.
#ยอมรับและเคารพความรู้สึกของลูก
การเคารพในสิทธิและความคิดเห็นของลูก ด้วยฟังลูกอย่างตั้งใจ พูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล และไม่บังคับให้ลูกทำสิ่งที่ไม่ต้องการ การเคารพในฐานะที่ลูกเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความคิดของตนเอง เป็นทัศนคติสำคัญในการเลี้ยงลูก ที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูก ส่งเสริมให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นใจ รู้จักเคารพผู้อื่น ด้วยการเปิดโอกาสตัดสินใจเลือกสิ่งต่างๆ ในชีวิต
.
#ให้พื้นที่ในการตัดสินใจ
ช่วยฝึกลูกให้คิดเป็น กล้าตัดสินใจบนความถูกต้อง เริ่มจากพ่อแม่ไม่คิดแทนลูก อยู่ข้างๆ ไม่ซ้ำเติมแม้ในวันที่ลูกผิดพลาด และชื่นชมเวลาที่ลูกยืนได้ด้วยตนเอง
.
#เป็นกระจกสะท้อนความคิด (reflective feedback)
การเป็นกระจกสะท้อนความคิด เพื่อให้ลูกมองเห็นตัวเองได้ชัดเจน เช่น ลูกรู้สึกกดดันมาก เพราะกลัวจะทำให้คนอื่น ๆ ในทีมผิดหวังใช่ไหม” การสะท้อนความรู้สึกโดยให้ลูกพูดหรือเขียนออกมาถึงความรู้สึกที่แท้จริง จะช่วยให้ลูกมองเห็นอารมณ์ความรู้สึกของตนเองชัดเจนขึ้น และการมองหาทางออกหรือหนทางแก้ไขปัญหาจะกระทำได้ง่ายขึ้น และตรงประเด็นมากขึ้น โดยมีพ่อแม่คอยให้คำแนะนำหรือเสริมในสิ่งที่ควรเติมให้เต็ม สิ่งสำคัญลูกจะยอมรับฟังคำแนะนำของพ่อแม่มากขึ้น เพราะลูกไว้วางใจและเชื่อมั่นว่าพ่อแม่เข้าใจลูกอย่างแท้จริง
.
หากผู้ปกครองท่านใดต้องการเรียนรู้เพื่อเพิ่มเติม เกี่ยวกับกระบวนการเลี้ยงลูกเชิงบวก ที่มีส่วนดีทั้งกับตัวเราและลูก เพื่อสร้างความสุขและรอยยิ้มในครอบครัว ในเรื่อง การสื่อสารสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ควบคู่ไปกับการสร้างวินัยที่ดี ให้กับลูก สามารถลงทะเบียนเรียนฟรีได้ที่ http://wwwnetpama.com ค่ะ
Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก
Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม
#Netpama #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกเชิงบวก #โค้ชพ่อแม่ #ParentCoach
.
เมื่อพ่อแม่มี Mindset ที่ดี หรือมีกระบวนการคิดในเชิงบวก พ่อแม่มีความสุข ลูกก็มีความสุขตามไปด้วย เมื่อก่อนเรามักจะได้ยินคำว่า พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก ที่ให้ความรัก ความรู้ สั่งสอนอบรม ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่พื้นฐานของพ่อแม่ แต่ในยุคปัจจุบันสังคมที่มีความซับซ้อน หลากหลาย และเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว การเรียนรู้ของลูกไม่ได้จำกัดเพียงแค่ส่งลูกไปโรงเรียนเท่านั้น โดยเฉพาะตั้งแต่ยุคโควิด – 19 ที่ทุกคนต้อง Work From Home (WFH) ทำให้ทุกคนตระหนักแล้วว่า การเรียนไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในห้องเรียน หรือในโรงเรียนอีกต่อไป แต่บ้านควรเป็นสถานที่รองรับที่ลูกจะสามารถศึกษาเล่าเรียน แม้ในช่วงเวลานั้นจะมีพ่อแม่เป็นครูจำเป็นก็ตาม นี่คือสัญญาเตือนให้พ่อแม่ต้องเตรียมพร้อมการปรับบทบาทของตนเองเพื่อลูก เพราะเราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นอีก
.
บทความนี้จึงชวนพ่อแม่ปรับบทบาทการที่ไม่ใช่เพียงพ่อแม่ที่ปกครองลูกเท่านั้น แต่เราจะทำหน้าที่ประคองลูกแบบผู้ให้คำปรึกษาที่เรียกว่า โค้ชพ่อแม่ ที่ปรึกษาที่ดีที่ลูก ๆ อยากเข้าหา
.
พ่อแม่ = โค้ช
การปรับเปลี่ยนบทบาทจากพ่อแม่ สู่การเป็นโค้ช อาจเกิดความสงสัยและไม่มั่นใจตนเองว่า เราจะเป็นโค้ชที่ดีให้ลูกได้หรือ แท้ที่จริงแล้วพ่อแม่ทุกคนเป็นโค้ชที่ดีให้ลูกได้และคงไม่มีใครทำหน้าที่นี้ดีไปกว่าพ่อแม่อีกแล้ว ลองสังเกตนะคะ นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ จะพบว่า โค้ชและนักกีฬาจะเป็นทีมเดียวกัน แม้จะมีความอาวุโสต่างกัน แต่มีความสนิทสนม เข้าใจ คล้ายกับเป็นเพื่อนรุ่นพี่
.
หากมองภาพลูกและพ่อแม่ แน่นอนว่า คงทำให้เรานึกภาพของการอยู่ในพื้นที่การเคารพมากกว่าความสนิทสนม แต่จะดีหรือไม่หากพ่อแม่อยากเห็นลูกประสบความสำเร็จ ช่วยให้ลูกเข้าใจและค้นหาศักยภาพของตนเองได้ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปพร้อมกัน!! มาปรับเปลี่ยนบทบาทด้วยการเป็นโค้ชพ่อแม่ที่ปรึกษาที่ดีที่ลูก ๆ อยากเข้าหา
.
จุดเริ่มต้น
เริ่มที่การปรับทัศนคติของตนเองที่ว่า “ฉันเป็นพ่อแม่ ลูกต้องเชื่อฟังและทำตามคำสั่งสอนของฉันเท่านั้น” มาเป็น “ที่ปรึกษาที่ดีที่ลูกสามารถนำคำแนะนำของฉันไปพิจารณาและเลือกให้เหมาะสมกับตนเอง” Mindset หรือทัศนคตินี้จะเกิดขึ้นได้ เมื่อพ่อแม่เริ่มที่เชื่อมั่นในตนเอง เชื่อมั่นในตัวลูก พร้อมให้ลูกลองผิดลองถูก เพื่อสร้าง Grit หรือสร้างปัจจัยให้ลูกประสบความสำเร็จด้วยการลงมือทำอย่างไม่ย่อท้อ แม้จะต้องใช้ระยะเวลานานเป็นเดือน เป็นปีก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญมากในยุคปัจุบันหากอยากประสบความสำเร็จ รวมถึง การยอมรับความผิดพลาดผิดหวังแบบ “ลูกล้มได้นะ แต่ลูกต้องลูกยืนให้เป็นและลุกยืนให้ไว” มาดูกันว่า คุณพ่อคุณแม่จะเป็นโค้ชที่ปรึกษาที่ดีให้ลูกได้อย่างไร
.
วิธีเป็นโค้ชพ่อแม่ ที่ปรึกษาที่ดีที่ลูก ๆ อยากเข้าหา
#ฟังอย่างตั้งใจ (active listening)
เรียกได้ว่า เป็นประตูที่เปิดถึงหัวใจของลูกด้วยการฟัง เรียกว่า ฟังด้วยใจ ไม่ใช่แค่หู ฟังอย่างไม่ตัดสิน ฟังให้หมด ให้ครบถ้อยคำที่ลูกเล่า โดยไม่ขัด ไม่ตัดสิน ไม่รีบสอนหรือด่วนสรุป
.
#คำถามปลายเปิด (open-ended questions)
การใช้คำถามปลายเปิดถามกลับด้วยท่าทีที่อบอุ่นและเป็นมิตร เพื่อกระตุ้นให้ลูกได้คิด วิเคราะห์ถึงเรื่องราวหรือการกระทำ รวมถึงสะท้อนความรู้สึกที่แท้จริง เช่น ในตอนที่เกิดเรื่อง ลูกรู้สึกยังไง แม่อยากเข้าใจมุมของลูกมากกว่านี้” หรือ “พ่อเห็นลูกสนิทกับเพื่อนคนนี้มาก อะไรที่ทำให้ลูกชอบเพื่อนคนนี้เล่าให้พ่อแม่ฟังหน่อย”
.
การใช้คำถามไม่ควรชี้นำ เจาะจง ควบคุมตามความคิดของพ่อแม่เพราะไม่ฝึกให้ลูกคิดด้วยตนเอง เช่น “ลูกคิดว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง” ไม่ใช่ “ทำไมถึงไม่แก้ปัญหาแบบนี้ล่ะ ดีกว่าเยอะเลย”
.
#ยอมรับและเคารพความรู้สึกของลูก
การเคารพในสิทธิและความคิดเห็นของลูก ด้วยฟังลูกอย่างตั้งใจ พูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล และไม่บังคับให้ลูกทำสิ่งที่ไม่ต้องการ การเคารพในฐานะที่ลูกเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึก ความคิดของตนเอง เป็นทัศนคติสำคัญในการเลี้ยงลูก ที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูก ส่งเสริมให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นใจ รู้จักเคารพผู้อื่น ด้วยการเปิดโอกาสตัดสินใจเลือกสิ่งต่างๆ ในชีวิต
.
#ให้พื้นที่ในการตัดสินใจ
ช่วยฝึกลูกให้คิดเป็น กล้าตัดสินใจบนความถูกต้อง เริ่มจากพ่อแม่ไม่คิดแทนลูก อยู่ข้างๆ ไม่ซ้ำเติมแม้ในวันที่ลูกผิดพลาด และชื่นชมเวลาที่ลูกยืนได้ด้วยตนเอง
.
#เป็นกระจกสะท้อนความคิด (reflective feedback)
การเป็นกระจกสะท้อนความคิด เพื่อให้ลูกมองเห็นตัวเองได้ชัดเจน เช่น ลูกรู้สึกกดดันมาก เพราะกลัวจะทำให้คนอื่น ๆ ในทีมผิดหวังใช่ไหม” การสะท้อนความรู้สึกโดยให้ลูกพูดหรือเขียนออกมาถึงความรู้สึกที่แท้จริง จะช่วยให้ลูกมองเห็นอารมณ์ความรู้สึกของตนเองชัดเจนขึ้น และการมองหาทางออกหรือหนทางแก้ไขปัญหาจะกระทำได้ง่ายขึ้น และตรงประเด็นมากขึ้น โดยมีพ่อแม่คอยให้คำแนะนำหรือเสริมในสิ่งที่ควรเติมให้เต็ม สิ่งสำคัญลูกจะยอมรับฟังคำแนะนำของพ่อแม่มากขึ้น เพราะลูกไว้วางใจและเชื่อมั่นว่าพ่อแม่เข้าใจลูกอย่างแท้จริง
.
หากผู้ปกครองท่านใดต้องการเรียนรู้เพื่อเพิ่มเติม เกี่ยวกับกระบวนการเลี้ยงลูกเชิงบวก ที่มีส่วนดีทั้งกับตัวเราและลูก เพื่อสร้างความสุขและรอยยิ้มในครอบครัว ในเรื่อง การสื่อสารสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ควบคู่ไปกับการสร้างวินัยที่ดี ให้กับลูก สามารถลงทะเบียนเรียนฟรีได้ที่ http://wwwnetpama.com ค่ะ
Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก
Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม
#Netpama #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกเชิงบวก #โค้ชพ่อแม่ #ParentCoach

เน็ตป๊าม้า ขอแนะนำหลักสูตรออนไลน์ สอนเทคนิคเชิงบวกในการปรับพฤติกรรมเด็ก
คอร์สเร่งรัด
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่มีพื้นฐานการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวกอยู่แล้ว
แต่ต้องการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเด็กที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
คอร์สจัดเต็ม
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเรียนรู้และฝึกใช้เทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็ก
อย่างเป็นขั้นบันได เพื่อเตรียมพร้อมที่จะนำไปรับมือกับปัญหาพฤติกรรมเด็ก
อย่างมั่นใจ