เลี้ยงลูกให้พุ่งสู่ความสำเร็จทุกเป้าหมายเริ่มต้นได้ด้วย Growth Mindset 

“พ่อครับ ผมอยากเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ”  

“แม่คะ หนูอยากเรียนเปียโน หนูอยากขึ้นแสดงบนเวทีโรงเรียนค่ะ ” 

เวลาลูกๆ มาบอกว่าเค้ามีเป้าหมายอยากที่จะทำตามความฝัน แหม! ฟังแล้วก็ทำเอาพ่อแม่อย่างเราใจฟูไม่หยุด แต่พอเอาเข้าจริง เด็กหลายคนเมื่อเจออะไรที่ยากสักหน่อย ก็ถอดใจอยากจะเลิกซะแล้ว   

เราเคยสงสัยไหมคะ ว่าอะไรที่ทำให้เด็กคนหนึ่งเลือกที่จะพยายามสุดใจไม่ล้มเลิก สู้ไม่ถอย จนประสบความสำเร็จและไปได้ถึงฝันและเป้าหมายได้มากกว่าเด็กอีกคนหนึ่ง 

ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การที่จะประสบความสำเร็จไปถึงเป้าหมายตัวเองได้นอกจากเด็กๆจะต้องเห็นคุณค่าในตัวเอง (Self-Esteem) และมีนิสัยฮึด อึด สู้ พยายามไม่หยุดยั้ง(GRIT) แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เด็กๆจะต้องมีคือ “Growth Mindset” ซึ่งนับเป็นกุญแจสำคัญที่จะเปิดประตูสู่เส้นทางของความสำเร็จในชีวิตเลยค่ะ  

Growth Mindset คืออะไร และเราจะสร้างสิ่งนี้ให้ลูกๆ ของเราได้อย่างไรนั้น บทความนี้มีคำตอบแน่นอน 

เพราะ “ความคิด” นำไปสู่ “การกระทำ” 

Growth Mindset (ความคิดแบบเติบโต) คือความคิดที่ยืดหยุ่น เป็นความเชื่อที่ว่า ความสามารถของทุกคนไม่มีขีดจำกัด คนที่จะประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่คนที่มีพรสวรรค์ ดวงดี โชคดี หรือ บ้านมีฐานะ มีทุนสนับสนุนเท่านั้น แต่คนเราทุกคนสามารถเรียนรู้ ฝึกฝนเปลี่ยนแปลงและพัฒนาได้ตลอดเวลา ต่อให้เจอปัญหาก็จะเดินหน้าไม่หวั่นไหว แม้จะอยู่ในสภาพกดดัน ท้อแท้ หากเผชิญความล้มเหลวก็พร้อมที่จะลุกขึ้นยืนใหม่ พยายามอีกครั้ง เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายและความฝันของตัวเอง  

Growth Mindset ของลูกนั้น เป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องช่วยสร้างและฝึกฝนให้ลูกตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งวิธีที่จะสร้างให้ลูกมีความคิดแบบ Growth Mindset นั้นสามารถทำได้ดังนี้

เน้นการชื่นชมที่ “กระบวนการ” มากกว่า “ผลลัพธ์” 

หลีกเลี่ยง การใช้คำว่า เก่งที่สุด เด็กหัวดี อัจฉริยะ พรสวรรค์สร้างจริงๆ เพราะจะทำให้ลูกเข้าใจว่า เค้าจะต้องเก่งเหนือคนอื่นตลอดเวลา หรือจะต้องได้ผลต้องดีเลิศเท่านั้น ลูกถึงจะมีค่าพอที่จะได้รับคำชมจากพ่อแม่หรือจากใครๆ  

“แม่ดีใจมากเลย คะแนนสอบลูกเทียบกับเทอมที่แล้วดีขึ้นมาก แม่เห็นเลยว่าที่ผ่านมาลูกตั้งใจอ่านหนังสือ รับผิดชอบและทบทวนด้วยตัวเองต่อเนื่อง แม่ภูมิใจในตัวลูกจัง”  

ในเวลาที่ลูกเจออุปสรรคหรือปัญหา พ่อแม่ควรให้กำลังใจ
บอกลูกว่าตอนนี้ลูกแค่ยังทำไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่า ลูกทำไม่ได้ ทุกอุปสรรคมีหลายวิธีที่จะทำให้สำเร็จ กระตุ้นให้ลูกได้คิดหาวิธีที่จะไปถึงเป้าหมายด้วยตัวเอง 

“หนูเล่นไม่ได้ค่ะแม่ เพลงนี้มันเล่นยากมากเกินไป “ 

“แม่เข้าใจเลย เพลงนี้มันยากมากจริงๆ เมื่อเทียบกับเพลงก่อน ลูกอยากจะฝึกซ้อมยังไงดีจ๊ะ “ 

“ หนูรู้ละ หนูจะลองซ้อมทั้งเพลง และจะลองเน้นซ้ำท่อนที่ยาก 2 ครั้ง หนูว่าน่าจะดีขึ้นนะคะแม่” 

“เป็นความคิดที่ดีเลย เรามาลองดูกันนะจ๊ะ” 

พ่อแม่ควรสอนให้ลูกเรียนรู้จากความผิดพลาด
ไม่ว่าใครก็สามารถทำผิดพลาดได้ ซึ่งเราสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้จากความผิดพลาดได้เสมอ ใช้คำถามเปิดให้คิด สนับสนุนเด็กๆ ให้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง 

“พ่อรู้สึกเลยว่า ลูกผิดหวังกับผลการแข่งบอลวันนี้ พ่อเห็นลูกตั้งใจซ้อมมากๆ ลูกคิดว่าในการแข่งนี้พลาดตรงไหน ไหนลองเล่าให้พ่อฟังหน่อย แล้วลูกคิดว่าอยากแก้เกมยังไงในครั้งหน้า มาเรามาลองกันอีกสักตั้ง “ 

อย่าเผลอเปรียบเทียบลูกเรากับคนอื่น
เด็กแต่ละคนมีความสามารถและทักษะการเรียนรู้ที่ต่างกัน ดอกไม้แต่ละชนิดเติบโตและสวยงามในฤดูที่แตกต่าง ลูกๆ ของเราก็เช่นกัน ให้เค้าได้ค่อยๆ เติบโตอย่างสวยงามและมีความสุข โดยมีพ่อแม่เป็นร่มไม้ใหญ่ เป็นที่พักพิงให้ร่มเงาป้องกันภัยให้กับเค้าห่างๆในระหว่างการเติบโตนะคะ  

ชวนลูกคุยถึงบุคคลที่ประสบความสำเร็จด้วย “Growth Mindset”
โดยอาจจะเป็นไอดอลที่ลูกปลื้ม ให้ลูกได้คิดวิเคราะห์ว่า เพราะอะไรคนผู้นั้นถึงประสบความสำเร็จ และเราสามารถนำข้อคิดที่ได้มาปรับใช้กับตัวเราอย่างไรได้บ้าง เป็นการฝึกการคิดและสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกกับอีกทาง 

สุดท้ายแต่สำคัญที่สุด “ครอบครัว” ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพ่อแม่ รักที่ตัวตนของลูก จะเป็นแรงผลักดันและกำลังใจมหาศาลที่จะทำให้เด็กคนหนึ่งก้าวผ่านความกลัว ความเหนื่อย ปัญหา และ ความยากลำบาก ไปจนถึงเป้าหมายและประสบความสำเร็จในที่สุด  

สุดท้ายนี้ พ่อแม่อย่าลืมเลี้ยงลูกรักของเราด้วย“ Growth Mindset” เช่นเดียวกันนะคะ เรากับลูกจะไปด้วยกันไปได้ไกลแน่นอนค่ะ :) สำหรับพ่อแม่ที่สนใจร่วมเป็นสมาชิกเน็ตป๊าม้า เพื่อเรียนรู้ในการเลี้ยงลูกเชิงบวก สามารถลงทะเบียนคอร์สเรียนต่าง ๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกเชิงบวกได้ทาง www.netpama.com ฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่าย !