“มาตาลดา” หรือ มาตา เป็นตัวแทนของแสงสว่างที่เปล่งประกายส่งความสุขและความอบอุ่นให้ผู้คนรอบข้าง เธอเป็นเด็กสาวที่มองโลกในแง่ดี ใจดีและอบอุ่น เธอมักจะมีรอยยิ้มที่สดใสอยู่บนใบหน้าเสมอ  

ชีวิตของมาตาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ตรงกันข้ามครอบครัวของเธอผ่านปัญหาหนักมามากมาย เธอมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ‘พ่อเกรซ’ พ่อเลี้ยงเดี่ยวของเธอเป็น LGBTQ ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากอากงอาม่า พ่อถูกตีและไล่ออกจากบ้าน มาตาเห็นรอยแผลของพ่อและแอบเห็นพ่อนอนร้องไห้บ่อยๆ  

ตอนเด็กๆ มาตา มักจะโดนเพื่อนล้อว่าเธอเป็น “ลูกตุ๊ด” มาตาโกรธจนมีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนบ่อยครั้ง ทุกครั้ง เธอมักจะไปร้องไห้ระบายกับพ่อเสมอ 

แม้จะไม่สมบูรณ์แต่มาตาก็เติบโตมาได้อย่างสวยงาม มากไปกว่านั้น เธอยังมีพลังพอที่จะส่งต่อความสุขและความใจดีให้กับคนรอบข้าง รวมถึง “หมอปุริม”หรือเป็นหนึ่ง คนที่สมบูรณ์แบบในสายตาผู้อื่น แต่ตัวเขาเองกลับไม่เคยได้รู้จักคำว่าความสุขในชีวิต เป็นหนึ่งมักรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอเสมอโดยเฉพาะในสายตาพ่อของเขา จนกระทั่งวันที่ได้พบกับมาตาลดา ชีวิตของเป็นหนึ่งก็เปลี่ยนไป  ‘ความรัก ความเข้าใจ และการยอมรับในตัวตนที่แท้จริง’ เป็นหนึ่งได้รับสิ่งเหล่านี้จากมาตาลดาเป็นคนแรก  

อะไรที่ทำให้มาตาลดาเด็กที่เกิดในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์และมีปัญหา เติบโตมาอย่างมั่นคงและมีความสุข มากไปกว่านั้นยังส่งต่อพลังแห่งความใจดีและความสุขให้กับผู้คนรอบข้าง ถึงแม้ในวันที่ตัวเองจะพบปัญหามากมาย แต่มาตายังคงคิดบวกยืนหยัดและสู้ไม่ถอยเพื่อจะแก้ไขปัญหา …นั่นเป็นเพราะว่า … 

♥️ มาตาเติบโตมาด้วย ‘ความรัก ‘ ถึงพ่อของเธอจะเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่แตกต่างกับผู้อื่น แต่พ่อดูแลมาตาอย่างดีด้วยความรักความอบอุ่น ทำให้มาตาเข้าใจในคุณค่าของตัวเอง (Self-Esteem) รู้สึกมีความหมาย เป็นที่รัก ทำให้มาตาเองเข้าใจคุณค่าและรู้จักเคารพผู้อื่นด้วย ( Respect)  

♥️ มาตามีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ( Empathy)โดยมี ‘พ่อเกรซ’เป็นต้นแบบ พ่อสอนให้เธอเป็นคนใจดีกับผู้อื่นโดยเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเธอ พ่อบอกว่า แม้ว่าคนๆ นั้นอาจจะร้ายกับเรา แต่เราก็ควรจะให้โอกาสและใจดีกับเขา เพราะคนที่ทำร้ายคนอื่นนั้นคือคนเจ็บปวดที่สุด 

♥️ มาตาเป็นผู้รับฟังที่ดี ตั้งแต่เล็กพ่อเกรซรับฟังเธอมาตลอด พ่อรับรู้อารมณ์และยอมรับความรู้สึกของเธอเสมอ เมื่อโตขึ้นมาตาจึงเป็นผู้ฟังที่ดี เธอมักจะรับฟังปัญหาเป็นหนึ่งและผู้อื่นอย่างเข้าใจและไม่ตัดสิน ทำให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยเวลาอยู่ใกล้เธอ 

♥️มาตาเป็นคนมีน้ำใจ เธอมักจะช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเต็มใจกระตือรือร้นและพ่อของเธอก็เป็นคนแบบนี้เช่นกัน เราสามารถฝึกให้ลูกช่วยเหลือผู้อื่นโดยทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง เริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกสามารถทำได้ชื่นชมเป็นกำลังใจให้ลูกอยากทำต่อ 

♥️ มาตาเข้าใจและรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองในการอยู่ร่วมกับคนอื่น พ่อเกรซมักฝึกให้มาตาได้เผชิญกับปัญหาและหาคำตอบด้วยตนเองโดยมีพ่อให้คำแนะนำห่างๆ ครั้งหนึ่ง มาตาตีเพื่อนเพราะเพื่อนล้อว่าลูกเธอเป็นตุ๊ดจึงถูกเรียกผู้ปกครอง พ่อเกรซถามเธอว่า มาตารู้สึกอย่างไร และเมื่อเธอตีเพื่อนแล้วมาตาอยากจะทำอย่างไร พ่อให้โอกาสมาตาได้คิดทบทวนความรู้สึกและแก้ปัญหาด้วยตัวเอง 

♥️ มาตารู้จักการให้อภัย คนทุกคนต่างก็เคยทำผิดพลาดและมีบาดแผล แต่ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นจะต้องเป็นคนไม่ดีเสมอ เธอเข้าใจความรู้สึกและเหตุผลของ อากงอาม่าที่ไม่สามารถยอมรับพ่อและเธอได้ เธอจึงยอมรับแต่ไม่ยอมแพ้ พยายามที่จะใช้ความดีของเธอเพื่อที่จะเปลี่ยนใจอากงอาม่า  

♥️ มาตามีจิตใจเข้มแข็งสู้ไม่ถอย ( Resilience) เพราะเธอรับรู้ถึงคุณค่าในตัวเองและครอบครัว เข้าใจและยอมรับความล้มเหลวที่เกิดขึ้น ถึงแม้มาตาจะถูกอากงอาม่าไล่สักกี่ครั้ง ถึงแม้เสียใจแต่เธอก็ยังคงเข้าใจและให้อภัย เพื่อพ่อของเธอ มาตาเดินหน้าใช้ความดีและความจริงใจของเธอเปลี่ยนใจอากงอาม่า 

♥️มาตาให้เกียรติผู้อื่น สุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน เธอมักกล่าวคำ ขอบคุณ และขอโทษคนอื่นเป็นประจำเสมอ “ขอบคุณนะเป็นหนึ่ง ..เป็นหนึ่งเป็นหมอที่ใจดีที่สุด”  

เพราะเราไม่ได้ต้องการให้ลูก “เป็นคนเก่งที่สมบูรณ์แบบที่ไร้หัวใจ” แต่เราอยากให้ลูกเป็นคนที่ “เข้าใจในความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิต” รักและเคารพในตัวเองและผู้อื่นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆ ลูกจะมีความใจดีเป็นอาวุธ ด้วยความดีลูกจะเป็นที่รักของคนรอบข้าง ด้วยความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอเมื่อเจออุปสรรค ลูกจะสามารถลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเองพาเขาไปสู่จุดมุ่งหมายในชีวิตโดยมีคนรอบข้างที่รักและเอ็นดูช่วยดูแลประคับประคองลูกไป 

บทความโดย มัมมี่Bชวนเมาท์