รู้จักความ “พอดี” ชีวิตจึงจะ “ดีพอ” สอนลูกให้เข้าใจความพอดีเพื่อความสุขและความสำเร็จในชีวิต
เมื่อ 10 ชั่วโมงที่แล้ว
รู้จักความ “พอดี” ชีวิตจึงจะ “ดีพอ”
สอนลูกให้เข้าใจความพอดีเพื่อความสุขและความสำเร็จในชีวิต บทความโดย #มัมมี่Bชวนเมาท์
.
ในโลกปัจจุบันที่ดูเหมือนจะมีการให้คุณค่าชื่นชม และวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นอย่างฉาบฉวยจากสิ่งที่เห็นเพียงภายนอก ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง รางวัลจากการแข่งขัน ผลการเรียนที่โดดเด่น ฐานะการเงิน หน้าที่การงานและความสำเร็จต่างๆในครอบครัว
.
ยิ่งเราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความจริงเพียงด้านเดียว และภาพจากการปรุงแต่งให้สวยงามสมบูรณ์แบบมากเท่าไหร่ ความรู้สึกต่อใจมักยิ่งเปราะบาง จึงไม่ใช่เรื่องผิดเลยที่สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากได้และอยากมีแบบผู้อื่น
.
แต่สิ่งที่ไม่ถูกต้อง คือ การทำให้ความสุขและความสำเร็จของผู้อื่นกลายเป็นความทุกข์ของตัวเรา อยากที่จะประสบความสำเร็จตามแบบผู้อื่นด้วยวิธีง่ายๆ โดยเลือกใช้ทางที่ผิด เอารัดเอาเปรียบทำร้ายตัวเองและผู้อื่นโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
.
การสอนลูกให้รู้จัก “ความพอดี” ไม่ได้หมายความว่า ลูกจะต้องยอมรับและพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีเท่านั้น
.
แต่เป็นการสอนให้ลูกรักและยอมรับในสิ่งที่ตนเองเป็น เห็นคุณค่าในตัวเอง รู้สึกขอบคุณในสิ่งทีมี มีความสุขได้โดยที่ไม่ต้องการการยอมรับจากผู้อื่น
.
“ความพอดี” จึงเป็นการรักษาสมดุลของสิ่งที่มี กับความต้องการที่มากขึ้น ลงมือทุ่มเทแรงกายและใจ เพื่อให้ได้มาด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
.
พ่อแม่สามารถสอนลูกให้รู้จักความพอดีได้โดยไม่เปรียบเทียบลูกกับใคร ยินดีได้กับความสำเร็จของผู้อื่น เรียนรู้และนำประสบการณ์ของพวกเขามาเป็นแรงบันดาลใจในชีวิต
.
ซึ่ง “ความสำเร็จ” ไม่มีทางลัด เมื่อตั้งเป้าหมายแล้วต้องทุ่มเทและใช้เวลา อดทนและพยายามเพื่อไปให้ถึง
.
ฝึกให้ลูกมีวินัยใช้ความพยายามและอดทนจนกลายเป็นนิสัย เริ่มได้จากงานเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น งานบ้าน การเรียน หรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ผลของการลงมือทำ เข้าใจรสชาติของความล้มเหลว ล้มแล้วลุกได้มีกำลังใจไปต่อ หาวิธีปรับปรุงแก้ไขเพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายและความสำเร็จที่ตั้งไว้
.
ชื่นชมและให้กำลังใจลูกบ่อยๆ ในความพยายามของเขามากกว่าผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่แค่ความสำเร็จ แต่เป็น “ความพยายาม” ของลูกต่างหากที่ทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ
.
ในวันที่ลูกเหนื่อยและท้อ ทำผิดพลาดหรือล้มเหลว เขาจะมีพ่อแม่เคียงข้างคอยกำลังใจไม่ซ้ำเติมเสมอ
.
สุดท้ายแต่สำคัญที่สุดคือ การที่พ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดีของคำว่า “พอดี” รักและยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น เห็นถึงคุณค่าในตัวลูกถึงแม้วันนี้เขาอาจจะยังทำได้ไม่ดีอย่างใจก็ตาม
.
เพราะรู้สึก “ดีพอ” สำหรับพ่อแม่ ลูกจึงจะรับรู้ได้ถึงคุณค่าและความดีพอในตัวเอง เกิดเป็นความมั่นคงทางใจอยากที่จะทำตัวเองให้ดีขึ้นจากใจของเขา
.
เมื่อใดก็ตามที่ลูกต้องแลกความสุขของตัวเอง หรือทำทุกวิถีทางโดยไม่สนใจว่าจะถูกหรือผิดเพียงเพื่อได้มาซึ่งความสำเร็จและการยอมรับว่า “ดีพอ” จากผู้อื่น นั่นคือชีวิตที่ขาดความ “พอดี” แล้ว
.
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเรียนรู้เทคนิคการสื่อสารเชิงบวก ปลูกฝังวินัยและทักษะตามวัยให้ลูกเพื่อสร้างคุณค่าในตัวเอง เรียนรู้ทักษะสื่อสารสะท้อนความรู้สึกเพื่อการจัดการอารมณ์ และ ทักษะการชมเพื่อสร้าง Self-Esteem ให้ทำให้ลูกมั่นใจแต่ไม่เหลิง
.
ทั้งหมดได้ถูกรวบรวมไว้ใน #คอร์สจัดเต็มแบบออนไลน์ ซึ่งจัดทำโดยทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยา ที่ https://www.netpama.com/ มีทั้งคลิปวีดิโอเรื่องราว ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้เลยได้จริง โดยเรียนฟรี!ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
#NetPAMA #เน็ตป๊าม้า #เลี้ยงลูกเชิงบวก #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก
สอนลูกให้เข้าใจความพอดีเพื่อความสุขและความสำเร็จในชีวิต บทความโดย #มัมมี่Bชวนเมาท์
.
ในโลกปัจจุบันที่ดูเหมือนจะมีการให้คุณค่าชื่นชม และวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นอย่างฉาบฉวยจากสิ่งที่เห็นเพียงภายนอก ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง รางวัลจากการแข่งขัน ผลการเรียนที่โดดเด่น ฐานะการเงิน หน้าที่การงานและความสำเร็จต่างๆในครอบครัว
.
ยิ่งเราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความจริงเพียงด้านเดียว และภาพจากการปรุงแต่งให้สวยงามสมบูรณ์แบบมากเท่าไหร่ ความรู้สึกต่อใจมักยิ่งเปราะบาง จึงไม่ใช่เรื่องผิดเลยที่สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากได้และอยากมีแบบผู้อื่น
.
แต่สิ่งที่ไม่ถูกต้อง คือ การทำให้ความสุขและความสำเร็จของผู้อื่นกลายเป็นความทุกข์ของตัวเรา อยากที่จะประสบความสำเร็จตามแบบผู้อื่นด้วยวิธีง่ายๆ โดยเลือกใช้ทางที่ผิด เอารัดเอาเปรียบทำร้ายตัวเองและผู้อื่นโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
.
การสอนลูกให้รู้จัก “ความพอดี” ไม่ได้หมายความว่า ลูกจะต้องยอมรับและพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีเท่านั้น
.
แต่เป็นการสอนให้ลูกรักและยอมรับในสิ่งที่ตนเองเป็น เห็นคุณค่าในตัวเอง รู้สึกขอบคุณในสิ่งทีมี มีความสุขได้โดยที่ไม่ต้องการการยอมรับจากผู้อื่น
.
“ความพอดี” จึงเป็นการรักษาสมดุลของสิ่งที่มี กับความต้องการที่มากขึ้น ลงมือทุ่มเทแรงกายและใจ เพื่อให้ได้มาด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
.
พ่อแม่สามารถสอนลูกให้รู้จักความพอดีได้โดยไม่เปรียบเทียบลูกกับใคร ยินดีได้กับความสำเร็จของผู้อื่น เรียนรู้และนำประสบการณ์ของพวกเขามาเป็นแรงบันดาลใจในชีวิต
.
ซึ่ง “ความสำเร็จ” ไม่มีทางลัด เมื่อตั้งเป้าหมายแล้วต้องทุ่มเทและใช้เวลา อดทนและพยายามเพื่อไปให้ถึง
.
ฝึกให้ลูกมีวินัยใช้ความพยายามและอดทนจนกลายเป็นนิสัย เริ่มได้จากงานเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น งานบ้าน การเรียน หรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ผลของการลงมือทำ เข้าใจรสชาติของความล้มเหลว ล้มแล้วลุกได้มีกำลังใจไปต่อ หาวิธีปรับปรุงแก้ไขเพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายและความสำเร็จที่ตั้งไว้
.
ชื่นชมและให้กำลังใจลูกบ่อยๆ ในความพยายามของเขามากกว่าผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่แค่ความสำเร็จ แต่เป็น “ความพยายาม” ของลูกต่างหากที่ทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ
.
ในวันที่ลูกเหนื่อยและท้อ ทำผิดพลาดหรือล้มเหลว เขาจะมีพ่อแม่เคียงข้างคอยกำลังใจไม่ซ้ำเติมเสมอ
.
สุดท้ายแต่สำคัญที่สุดคือ การที่พ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดีของคำว่า “พอดี” รักและยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น เห็นถึงคุณค่าในตัวลูกถึงแม้วันนี้เขาอาจจะยังทำได้ไม่ดีอย่างใจก็ตาม
.
เพราะรู้สึก “ดีพอ” สำหรับพ่อแม่ ลูกจึงจะรับรู้ได้ถึงคุณค่าและความดีพอในตัวเอง เกิดเป็นความมั่นคงทางใจอยากที่จะทำตัวเองให้ดีขึ้นจากใจของเขา
.
เมื่อใดก็ตามที่ลูกต้องแลกความสุขของตัวเอง หรือทำทุกวิถีทางโดยไม่สนใจว่าจะถูกหรือผิดเพียงเพื่อได้มาซึ่งความสำเร็จและการยอมรับว่า “ดีพอ” จากผู้อื่น นั่นคือชีวิตที่ขาดความ “พอดี” แล้ว
.
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเรียนรู้เทคนิคการสื่อสารเชิงบวก ปลูกฝังวินัยและทักษะตามวัยให้ลูกเพื่อสร้างคุณค่าในตัวเอง เรียนรู้ทักษะสื่อสารสะท้อนความรู้สึกเพื่อการจัดการอารมณ์ และ ทักษะการชมเพื่อสร้าง Self-Esteem ให้ทำให้ลูกมั่นใจแต่ไม่เหลิง
.
ทั้งหมดได้ถูกรวบรวมไว้ใน #คอร์สจัดเต็มแบบออนไลน์ ซึ่งจัดทำโดยทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยา ที่ https://www.netpama.com/ มีทั้งคลิปวีดิโอเรื่องราว ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้เลยได้จริง โดยเรียนฟรี!ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
#NetPAMA #เน็ตป๊าม้า #เลี้ยงลูกเชิงบวก #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก
เน็ตป๊าม้า ขอแนะนำหลักสูตรออนไลน์ สอนเทคนิคเชิงบวกในการปรับพฤติกรรมเด็ก
คอร์สเร่งรัด
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่มีพื้นฐานการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวกอยู่แล้ว
แต่ต้องการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเด็กที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
คอร์สจัดเต็ม
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเรียนรู้และฝึกใช้เทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็ก
อย่างเป็นขั้นบันได เพื่อเตรียมพร้อมที่จะนำไปรับมือกับปัญหาพฤติกรรมเด็ก
อย่างมั่นใจ