เมื่อลูกถูกแกล้งจนรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า
เมื่อ 10 ชั่วโมงที่แล้ว
#เมื่อลูกถูกแกล้งจนรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า บทความโดย #มัมมี่Bชวนเมาท์
.
#การกลั่นแกล้งในโรงเรียน บางคนอาจมองเป็นเรื่องเล็กที่เด็กเล่นกัน พ่อแม่และผู้ใหญ่บางคนจึงสอนให้ลูกยอม อย่าไปสนใจ เพื่อนจะได้หมดสนุกและเลิกแกล้ง
.
แต่สิ่งที่ผู้ใหญ่อาจไม่รู้ คือ ความรุนแรงและผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจของเด็กที่โดนกระทำ
.
เมื่อถูกแกล้ง เด็กบางคนอาจถูกขู่ทำให้วิตกกังวล กลัวจนไม่กล้าบอกใคร กลัวจะถูกตำหนิซ้ำหรือทำให้โดนแกล้งหนักกว่าเดิม เด็กบางคนอาจเคยบอกพ่อแม่ และคุณครูแต่กลับถูกละเลย มองว่าเพื่อนล้อเล่น ลูกจึงตัดสินใจไม่พูดและไม่เล่าอีก
.
การที่เด็กคนหนึ่งต้องใช้ชีวิตทุกวันในโรงเรียน ถูกล้อ โดนแกล้งและรังแกบ่อยๆ เป็นเรื่องที่น่าทุกข์ใจอย่างมาก ทั้งเจ็บและอาย กลัว กังวล โกรธ โดดเดี่ยว หดหู่ และสิ้นหวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหาทางออกด้วยตัวเองไม่ได้
.
การที่ต้องจมดิ่งกับความรู้สึกเหล่านี้ นานวันจะยิ่งทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอและไม่เอาไหน และพูดไปก็ไม่มีใครสนใจ เขาเป็นคนไร้ค่าและถูกทอดทิ้ง
.
เมื่ออารมณ์ที่เก็บกดไว้ อัดอั้นจนระเบิดในวันใดวันหนึ่ง อาจทำให้เด็กตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยตัวเองในทางที่ผิดทำให้ทุกคนต้องมาเสียใจภายหลังอย่างที่เห็นกันในข่าวบ่อยๆ
.
มัมมี่B มั่นใจจริงๆ ว่า “ไม่มีเด็กคนไหนอยากปล่อยให้ตัวเองถูกแกล้ง หากเขาสามารถปกป้องตัวเองได้”
.
ในวันที่ไร้ทางออก สิ่งที่ลูกต้องการที่สุด คือ ใครสักคนที่เคียงข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พ่อแม่และคุณครู” คนสำคัญที่ใกล้ชิดกับเด็กที่สุด เป็นคนที่พร้อมจะรับฟังอย่างเข้าใจ เป็นหลักที่มั่นคงปลอดภัย ปกป้องคุ้มครองและช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาไปด้วยกันได้
.
หากลูกถูกแกล้งรังแกจนรู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้ค่า สิ่งแรกที่พ่อแม่และคุณครูควรทำ คือการเรียกคืน “คุณค่าในตัวเอง” ให้กับลูก ค่อยๆคืน “ความมั่นใจ” ให้กับเขา
.
ย้ำให้ลูกเข้าใจว่า การที่ลูกถูกรังแกเป็นความผิดของผู้กระทำไม่ใช่ความผิดของเขา ให้ความสำคัญกับ “ความรู้สึกของลูก” มากกว่าการรีบเค้นหาสาเหตุ เรื่องราว หรือซ้ำเติมที่เขาไม่ปกป้องตัวเองโดยที่พ่อแม่อาจไม่ได้ตั้งใจแต่พูดออกไปด้วยความเป็นห่วงก็ตาม
.
“แม่รู้ว่าลูกเจ็บและกลัวมาก นี่ไม่ใช่ความผิดของลูกเลย เพื่อนไม่มีสิทธิ์ทำกับลูกแบบนี้ มีอะไรอยากเล่าหรือให้แม่ช่วยได้ไม๊ แม่อยู่ตรงนี้พร้อมที่ช่วยลูกหากต้องการ”
.
ทำให้ลูกมั่นใจว่า “เขามีคุณค่าเสมอ”
ในวันที่โลกใจร้ายเจอปัญหาไร้ทางออก ในวันที่โลกข้างนอกโดดเดียวและไม่มีใคร ขอแค่หันกลับมาเขาจะมีพ่อแม่พร้อมเคียงข้างเสมอ
.
“แม่รู้ว่าที่ผ่านมาลูกต้องพยายามอดทนและเข้มแข็งขนาดไหน ลูกไม่ได้อ่อนแอเลยนะ การที่ลูกกล้าบอกแม่และขอความช่วยเหลือ นี่แหละคือความกล้าจริงๆ”
.
ค่อยๆ ฝึกทักษะการรับมือกับการโดนกลั่นแกล้งรังแกให้กับลูก และพ่อแม่ต้องยอมรับให้ได้ว่า ทักษะนี้ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน ฝึกให้ลูกได้คิดและตัดสินใจบ่อยๆว่า เขาควรทำอย่างไรให้เหมาะสมตามสถานการณ์ เช่น การพูดเสียงหนักแน่นจริงจังเพื่อห้ามเพื่อน การไม่อยู่คนเดียวในที่ลับตา เดินหนีไปในที่คนมากๆ การบอกผู้ใหญ่เพื่อขอความช่วยเหลือ หรือสู้กลับเพื่อปกป้องตัวเองหากจำเป็น
.
ประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน ควรพูดคุยกับคุณครูและทางโรงเรียนด้วยสติอย่างจริงจังหากจำเป็นเพื่อหาทางแก้ไขร่วมกัน เพราะการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนบางเรื่องอาจเรื้อรังและรุนแรงเกินกว่าที่ลูกจะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้
.
#การกลั่นแกล้งไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะการเล่นต้องสนุกด้วยกันทั้งสองฝ่าย สิ่งที่ผู้ใหญ่ควรตระหนักรู้และสอนให้เด็กๆ เข้าใจรวมถึงการเป็นตัวอย่างที่ดี คือ เราทุกคนไม่ควรมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น ความสนุกและเสียงหัวเราะของเราไม่ควรแลกมาด้วยความอับอายและความเจ็บปวดของใครบางคนเช่นกัน
.
Net PAMA ขอเป็นกำลังใจให้เด็กๆ คุณครูและ พ่อแม่ทุกบ้านนะคะ
.
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ หรือ คุณครูที่ต้องการเรียนรู้เทคนิคการสื่อสารเชิงบวก ปลูกฝังวินัยและทักษะตามวัยให้ลูกเพื่อสร้างคุณค่าในตัวเอง เรียนรู้ทักษะสื่อสารสะท้อนความรู้สึกเพื่อการจัดการอารมณ์ และ ทักษะการชมเพื่อสร้าง Self-Esteem ให้ทำให้ลูกมั่นใจแต่ไม่เหลิง
.
ทั้งหมดได้ถูกรวบรวมไว้ใน #คอร์สจัดเต็มแบบออนไลน์ ซึ่งจัดทำโดยทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยา ที่ https://www.netpama.com/ มีทั้งคลิปวีดิโอเรื่องราว ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้เลยได้จริง โดยเรียนฟรี!ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
#NetPAMA #เน็ตป๊าม้า #เลี้ยงลูกเชิงบวก #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก
.
#การกลั่นแกล้งในโรงเรียน บางคนอาจมองเป็นเรื่องเล็กที่เด็กเล่นกัน พ่อแม่และผู้ใหญ่บางคนจึงสอนให้ลูกยอม อย่าไปสนใจ เพื่อนจะได้หมดสนุกและเลิกแกล้ง
.
แต่สิ่งที่ผู้ใหญ่อาจไม่รู้ คือ ความรุนแรงและผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจของเด็กที่โดนกระทำ
.
เมื่อถูกแกล้ง เด็กบางคนอาจถูกขู่ทำให้วิตกกังวล กลัวจนไม่กล้าบอกใคร กลัวจะถูกตำหนิซ้ำหรือทำให้โดนแกล้งหนักกว่าเดิม เด็กบางคนอาจเคยบอกพ่อแม่ และคุณครูแต่กลับถูกละเลย มองว่าเพื่อนล้อเล่น ลูกจึงตัดสินใจไม่พูดและไม่เล่าอีก
.
การที่เด็กคนหนึ่งต้องใช้ชีวิตทุกวันในโรงเรียน ถูกล้อ โดนแกล้งและรังแกบ่อยๆ เป็นเรื่องที่น่าทุกข์ใจอย่างมาก ทั้งเจ็บและอาย กลัว กังวล โกรธ โดดเดี่ยว หดหู่ และสิ้นหวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหาทางออกด้วยตัวเองไม่ได้
.
การที่ต้องจมดิ่งกับความรู้สึกเหล่านี้ นานวันจะยิ่งทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอและไม่เอาไหน และพูดไปก็ไม่มีใครสนใจ เขาเป็นคนไร้ค่าและถูกทอดทิ้ง
.
เมื่ออารมณ์ที่เก็บกดไว้ อัดอั้นจนระเบิดในวันใดวันหนึ่ง อาจทำให้เด็กตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยตัวเองในทางที่ผิดทำให้ทุกคนต้องมาเสียใจภายหลังอย่างที่เห็นกันในข่าวบ่อยๆ
.
มัมมี่B มั่นใจจริงๆ ว่า “ไม่มีเด็กคนไหนอยากปล่อยให้ตัวเองถูกแกล้ง หากเขาสามารถปกป้องตัวเองได้”
.
ในวันที่ไร้ทางออก สิ่งที่ลูกต้องการที่สุด คือ ใครสักคนที่เคียงข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พ่อแม่และคุณครู” คนสำคัญที่ใกล้ชิดกับเด็กที่สุด เป็นคนที่พร้อมจะรับฟังอย่างเข้าใจ เป็นหลักที่มั่นคงปลอดภัย ปกป้องคุ้มครองและช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาไปด้วยกันได้
.
หากลูกถูกแกล้งรังแกจนรู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้ค่า สิ่งแรกที่พ่อแม่และคุณครูควรทำ คือการเรียกคืน “คุณค่าในตัวเอง” ให้กับลูก ค่อยๆคืน “ความมั่นใจ” ให้กับเขา
.
ย้ำให้ลูกเข้าใจว่า การที่ลูกถูกรังแกเป็นความผิดของผู้กระทำไม่ใช่ความผิดของเขา ให้ความสำคัญกับ “ความรู้สึกของลูก” มากกว่าการรีบเค้นหาสาเหตุ เรื่องราว หรือซ้ำเติมที่เขาไม่ปกป้องตัวเองโดยที่พ่อแม่อาจไม่ได้ตั้งใจแต่พูดออกไปด้วยความเป็นห่วงก็ตาม
.
“แม่รู้ว่าลูกเจ็บและกลัวมาก นี่ไม่ใช่ความผิดของลูกเลย เพื่อนไม่มีสิทธิ์ทำกับลูกแบบนี้ มีอะไรอยากเล่าหรือให้แม่ช่วยได้ไม๊ แม่อยู่ตรงนี้พร้อมที่ช่วยลูกหากต้องการ”
.
ทำให้ลูกมั่นใจว่า “เขามีคุณค่าเสมอ”
ในวันที่โลกใจร้ายเจอปัญหาไร้ทางออก ในวันที่โลกข้างนอกโดดเดียวและไม่มีใคร ขอแค่หันกลับมาเขาจะมีพ่อแม่พร้อมเคียงข้างเสมอ
.
“แม่รู้ว่าที่ผ่านมาลูกต้องพยายามอดทนและเข้มแข็งขนาดไหน ลูกไม่ได้อ่อนแอเลยนะ การที่ลูกกล้าบอกแม่และขอความช่วยเหลือ นี่แหละคือความกล้าจริงๆ”
.
ค่อยๆ ฝึกทักษะการรับมือกับการโดนกลั่นแกล้งรังแกให้กับลูก และพ่อแม่ต้องยอมรับให้ได้ว่า ทักษะนี้ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน ฝึกให้ลูกได้คิดและตัดสินใจบ่อยๆว่า เขาควรทำอย่างไรให้เหมาะสมตามสถานการณ์ เช่น การพูดเสียงหนักแน่นจริงจังเพื่อห้ามเพื่อน การไม่อยู่คนเดียวในที่ลับตา เดินหนีไปในที่คนมากๆ การบอกผู้ใหญ่เพื่อขอความช่วยเหลือ หรือสู้กลับเพื่อปกป้องตัวเองหากจำเป็น
.
ประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน ควรพูดคุยกับคุณครูและทางโรงเรียนด้วยสติอย่างจริงจังหากจำเป็นเพื่อหาทางแก้ไขร่วมกัน เพราะการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนบางเรื่องอาจเรื้อรังและรุนแรงเกินกว่าที่ลูกจะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้
.
#การกลั่นแกล้งไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะการเล่นต้องสนุกด้วยกันทั้งสองฝ่าย สิ่งที่ผู้ใหญ่ควรตระหนักรู้และสอนให้เด็กๆ เข้าใจรวมถึงการเป็นตัวอย่างที่ดี คือ เราทุกคนไม่ควรมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น ความสนุกและเสียงหัวเราะของเราไม่ควรแลกมาด้วยความอับอายและความเจ็บปวดของใครบางคนเช่นกัน
.
Net PAMA ขอเป็นกำลังใจให้เด็กๆ คุณครูและ พ่อแม่ทุกบ้านนะคะ
.
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ หรือ คุณครูที่ต้องการเรียนรู้เทคนิคการสื่อสารเชิงบวก ปลูกฝังวินัยและทักษะตามวัยให้ลูกเพื่อสร้างคุณค่าในตัวเอง เรียนรู้ทักษะสื่อสารสะท้อนความรู้สึกเพื่อการจัดการอารมณ์ และ ทักษะการชมเพื่อสร้าง Self-Esteem ให้ทำให้ลูกมั่นใจแต่ไม่เหลิง
.
ทั้งหมดได้ถูกรวบรวมไว้ใน #คอร์สจัดเต็มแบบออนไลน์ ซึ่งจัดทำโดยทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยา ที่ https://www.netpama.com/ มีทั้งคลิปวีดิโอเรื่องราว ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้เลยได้จริง โดยเรียนฟรี!ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
#NetPAMA #เน็ตป๊าม้า #เลี้ยงลูกเชิงบวก #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก
เน็ตป๊าม้า ขอแนะนำหลักสูตรออนไลน์ สอนเทคนิคเชิงบวกในการปรับพฤติกรรมเด็ก
คอร์สเร่งรัด
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่มีพื้นฐานการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวกอยู่แล้ว
แต่ต้องการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเด็กที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
คอร์สจัดเต็ม
เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเรียนรู้และฝึกใช้เทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็ก
อย่างเป็นขั้นบันได เพื่อเตรียมพร้อมที่จะนำไปรับมือกับปัญหาพฤติกรรมเด็ก
อย่างมั่นใจ