บันทึกใจสลายจากชายตัวน้อย ไม่มีลูกคนไหนอยากทำให้พ่อแม่ผิดหวัง

- บันทึกใจสลายจากชายตัวน้อย -
ไม่มีลูกคนไหนอยากทำให้พ่อแม่ผิดหวัง
บทความโดย #มัมมี่Bชวนเมาท์
.
มัมมี่B ได้ดูภาพยนตร์เรื่อง #บันทึกใจสลายจากชายตัวน้อย ทาง #Netflix ภาพยนตร์ฮ่องกงที่ชนะรางวัลมากมาย ซึ่งผู้กำกับได้เปิดเผยว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ส่วนตัว ดูจบแล้วคิดว่า #เรื่องนี้เป็นปัญหาพบบ่อยของเด็กในยุคปัจจุบัน และอาจใกล้ตัวมากกว่าที่คิด เลยอยากชวนพ่อแม่มาดูด้วยกันค่ะ
.
Spoiler Alert ** คำเตือน บทความต่อไปนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาภาพยนตร์
.
“กิตไจ๋" เด็กชายอายุ 10 ปี เขาเป็นเด็กที่มีจิตใจดี มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น แต่เขาหัวช้า เรียนไม่เก่ง ในขณะที่น้องชายของเขานั้นทั้งหัวดี เรียนเก่ง เล่นเปียโนเข้าขั้นอัจฉริยะ
.
กิตไจ๋รักพ่อแม่และน้องมาก เขารู้ตัวว่าทำให้พ่อแม่ผิดหวังอยู่เสมอ จึงพยายามทำดีเท่าที่จะทำได้เพียงเพื่ออยากให้พ่อแม่ดีใจ
.
เด็กชายเริ่มเขียนไดอารี่ เพราะได้ยินจากครูใหญ่ว่า การเขียนจะช่วยทำให้ฉลาด กิตไจ๋จึงหวังว่า หากเขียนไดอารี่ผลการเรียนของเขาคงจะดีขึ้นบ้าง #พ่อจะได้ไม่ตีเขาอีก
.
”สักวันจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่แบบที่นายหวัง…อย่าท้อ"
ข้อความสร้างแรงบันดาลใจจากหนังสือการ์ตูนที่เป็นเสมือนเพื่อนคนเดียวของเขา แต่สุดท้ายการ์ตูนเล่มนั้นกลับถูกพ่อฉีกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี
.
พ่อเติบโตมาจากความยากจนจึงต้องดิ้นรนเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ พ่อจึงเข้มงวดกับลูกๆอย่างมากโดยเฉพาะในด้าน “การเรียน”
.
“ความพยายามอาจไม่การันตีความสำเร็จ แต่คนที่ไม่พยายามล้มเหลวแน่นอน”
คติพจน์ของพ่อ ที่ดูเหมือนพ่อจะไม่เคยเข้าใจความหมายที่แท้จริง กิตไจ๋อ่านหนังสือจนดึก ทำแบบฝึกหัดโดยไม่พักกินข้าว แต่เขาก็ยังคงสอบตก #ความพยายามจึงไร้ความหมาย เพราะพ่อให้ความสำคัญแต่กับคะแนนสอบ #ผลลัพธ์ที่ไม่เคยได้ดังใจ
.
ทุกครั้งที่ประกาศผลสอบ คือ “วันพิพากษาโทษ”
.
กิตไจ๋จะถูกพ่อตวาด ดูถูก ด้อยค่า ฉุดกระชากลากตีด้วยไม้ขนไก่ หลายครั้งที่พ่อทะเลาะกล่าวโทษแม่ด้วยเรื่องของเขา ในขณะที่แม่นั่งร้องไห้กล่าวโทษเขาที่เป็นต้นเหตุของปัญหา และเลือกที่จะเบนความสนใจให้กับน้องเท่านั้น
.
พ่อแม่ทำราวกับว่า #คะแนนสอบของลูกคือคะแนนความสำเร็จของพวกเขา
.
เด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความกลัวและความกดดัน แบกรับกับความรู้สึกผิดว่าตนเองคือตัวปัญหา กิตไจ๋วิตกกังวลจนนอนไม่หลับต่อเนื่อง เขาทรมานมากและขอให้แม่พาไปพบจิตแพทย์ แม่โกรธมากบอกว่า เขาแค่ไม่ตั้งใจเรียนมากพอ และคนที่ไปพบจิตแพทย์มีแต่คนที่เป็นบ้า
.
สุดท้ายพ่อแม่ถอดใจกับเขา ชื่นชมและให้ความสนใจแต่กับน้องชาย ทุกคนเมินเฉยต่อกิตไจ๋ ราวกับว่า #เขานั้นไร้ตัวตนบนโลกใบนี้
.
“ฉันไม่มีค่า ไม่ได้เป็นคนสำคัญอะไร ฉันทำให้ทุกคนไม่มีความสุข” คือข้อความสุดท้ายในไดอารี่ ก่อนที่เด็กชายตัดสินใจทำสิ่งหนึ่งให้จบไป เหลือไว้เพียงความเจ็บปวดและความเสียใจให้กับทุกคน
.
ในฐานะที่ตัวเองก็เป็นแม่คนหนึ่ง มัมมี่B เข้าใจดีว่า พ่อแม่ทุกคนทั้งรักและห่วงลูก โดยเฉพาะพ่อแม่ที่โตมาอย่างยากลำบาก จะยิ่งกลัวและห่วงอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดีกว่าตนเอง จึงให้ความสำคัญกับการเรียนอย่างมาก
.
เมื่อลูกไม่ตั้งใจเรียนหรือมีผลการเรียนที่แย่ มักทำให้พ่อแม่กังวล โมโหและผิดหวัง เมื่อความห่วงถูกผสมด้วยอารมณ์ลบมากมาย มักกลายเป็นคำพูดประชดประชัน ดูถูก เสียดสี ตีตรา คิดไปเองว่า คำพูดเหล่านี้จะส่งผลดีกระตุ้นให้ลูกฮึดสู้เพื่อตัวเขา
.
#แต่ไม่มีเด็กคนไหนจะมีกำลังใจภายใต้ความกลัว คำพูดเชือดเฉือนที่คิดว่ามาจากความห่วงใย จะค่อยๆ กรีดทำลายหัวใจ และตัวตนลูกให้แตกสลายอย่างช้าๆ ทำลายสัมพันธ์ระหว่างกัน เป็นการผลักไสให้ลูกยิ่งห่างออกไปไกลมากขึ้นทุกที
.
#ไม่มีลูกคนไหนที่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวัง เด็กทุกคนอยากเป็นที่รักและได้รับยอมรับชื่นชมจากใครสักคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพ่อแม่คนสำคัญที่สุดในชีวิต
.
#การรู้สึกไม่เป็นที่รักคือบาดแผลทางใจที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับเด็กคนหนึ่ง
.
ใครบ้างเลี้ยงลูกโดยไม่มีความคาดหวัง ความคาดหวังต่อลูกเป็นสิ่งทำได้ แต่ควรเป็นไปตามความสามารถของเขา ทำความคาดหวังให้เป็นพลังบวกที่จะช่วยประคองลูกไปสู่ความสำเร็จ
.
เปิดใจมองให้เห็นข้อดีด้านอื่นๆของลูก ตั้งเป้าหมายที่ไปถึงได้จริงร่วมกัน พ่อแม่สามารถสร้างแรงจูงใจและให้กำลังใจลูกโดย #ชื่นชมในข้อดีของเขา เพื่อให้ลูกรู้ถึงคุณค่าในตัวเองเสมอ
.
#ชื่นชมในความพยายามมากกว่าผลลัพธ์ ขอแค่ลูกพยายามให้เต็มที่ไม่ว่าผลจะอย่างไร ลูกยังมีคุณค่าและเป็นดีพอสำหรับพ่อแม่เสมอ
.
#สื่อสารพูดคุยรับฟังยอมรับในทุกความรู้สึกของลูก หากพยายามแล้วลูกยังคงติดขัดด้านการเรียน ควรหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อช่วยลูกหาทางแก้ไขให้ถูกวิธี
.
ปัจจุบันพบว่า มีโรคหรือภาวะบางอย่างที่ทำให้มีผลกระทบต่อการเรียน เช่น ปัญหาสายตา การฟัง สมาธิสั้น โรคการเรียนรู้บกพร่องเฉพาะด้าน (LD) หรือ ภาวะอื่นๆ การพาลูกไปพบแพทย์หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำอาจเป็นทางเลือกที่จะช่วยเราและลูกแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น
.
ความรักความห่วงใยจะไม่เคยทำร้ายใคร หากพ่อแม่ใช้การเลี้ยงดูที่ถูกต้องและแสดงออกอย่างถูกวิธี 
.
Net PAMA ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างลูกที่มีมีวินัยภายใต้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันโดยทำให้ลูกรู้ถึงคุณค่าในตัวเอง สามารถ #เข้าเรียนออนไลน์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายในคอร์สจัดเต็ม ซึ่งจัดทำโดยทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยา ที่ https://www.netpama.com/ มีทั้งคลิปวีดิโอเรื่องราว ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้เลยได้จริง

Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก

Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม

#Netpama #เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูกเชิงบวก