เข้าใจลูก ”ซึมเศร้า“ ผ่าน คุณคางคกไปพบนักจิตบำบัด

เข้าใจลูก ”ซึมเศร้า“ ผ่าน #คุณคางคกไปพบนักจิตบำบัด บทความโดย #มัมมี่Bชวนเมาท์
.
“พ่อแม่ส่วนใหญ่พยายามทำให้ดีที่สุด น้อยคนที่จะต้องการอย่างอื่นนอกเหนือจากสิ่งดีๆ ให้ลูกของตน แต่พ่อแม่ก็เป็นเพียงมนุษย์เท่านั้น นอกจากจะถ่ายทอดพันธุกรรมของตัวเองแล้ว พวกเขายังส่งต่อความเชื่อและพฤติกรรมให้ลูกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย” - คุณนกกระสา นักจิตบำบัด

มัมมี่B ได้มีโอกาสอ่านหนังสือ #คุณคางคกไปพบนักจิตบำบัด เป็นการเล่าตัวอย่างเคสการทำจิตบำบัด “โรคซึมเศร้า ” ผ่านรูปแบบนิยาย อ่านแล้วทำให้เข้าใจถึงอาการ ที่มาที่ไป วิธีการสำรวจจิตใจ รวมถึงขั้นตอนการบำบัด และวิธีที่คนรอบข้างจะช่วยเหลือได้ ซึ่งหนังสืออธิบายได้เห็นภาพและเข้าใจได้ง่าย เลยอยากจะชวนพ่อแม่พูดคุยถึงสิ่งที่ได้จากเรื่องนี้กันค่ะ
.
เพราะการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจของคุณคางคกที่เคยร่าเริง กระโดดโลดเต้น คุยโวโอ้อวด และมักแต่งกายเนี๊ยบอยู่เสมอ กลับขังตัวอยู่ในคฤหาสน์ที่สกปรกและรกรุงรัง เขาหมดความสนใจในทุกสิ่ง ไม่อาบน้ำใส่เสื้อผ้าที่เลอะเกรอะกรังดูเศร้าหมองอย่างที่สุด เพื่อนๆ จึงอ้อนวอนแกมบังคับด้วยความห่วงใยปนรำคาญใจว่า คุณคางคกจะต้องเข้ารับการบำบัด
.
“ผมมาที่นี่เพราะเพื่อนบอกให้ผมมา ผมรู้ว่าพวกเค้าเป็นห่วงผมจริงๆ”
.
“การรับการบำบัดเป็นเรื่องของความสมัครใจ คุณต้องทำเพื่อตัวคุณเองไม่ใช่เพื่อทำให้เพื่อนพอใจ เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของคุณ ไม่ใช่ของคนอื่น" นกกระสานักจิตบำบัดกล่าว
.
ระหว่างการบำบัด นกกระสาพาคางคกสำรวจอารมณ์และความรู้สึกของตนเอง ในตอนแรก คางคกอึดอัดมากและเพิ่งรู้ตัวว่า เขาไม่เคยเข้าใจในอารมณ์และความรู้สึกตนเองเลย
.
สุดท้ายคำตอบที่นกกระสาได้รับ คือ “เศร้าจนเคยชิน และรู้สึกไม่มีค่า”
.
“ผมจะไม่สบายใจถ้าคนอื่นไม่พอใจผม ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนอื่นมาชอบผมอีกครั้ง"
.
“พ่อมักดุ ตำหนิและวิจารณ์ผมเป็นประจำ ผมเริ่มยอมรับว่าพ่อถูกและผมผิดเสมอ ครั้งหนึ่งพ่อพูดกับแม่ว่า พ่อทนไม่ได้เวลาที่ผมทำตัวแบบนี้แล้วเดินหนีไป ผมร้องไห้ออกมาเลย”
.
“แม่อยู่ภายใต้การควบคุมของพ่อ ทำเหมือนผมเป็นเด็ก แม่บอกจะหยุดทำก็ต่อเมื่อผมเลิกทำตัวเป็นเด็ก"
.
เมื่อคิดย้อนกลับไปถึงพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว คางคกเพิ่งเข้าใจถึงความรู้สึกโกรธที่แท้จริง ที่ผ่านมาเขาไม่กล้าที่จะโกรธ เพราะหากโกรธ เขาคิดว่าตัวเองจะต้องถูกลงโทษ
.
คางคกโกรธพ่อและแม่มากแต่ก็รู้สึกผิดที่โกรธพ่อแม่ที่รักและเลี้ยงดูเขา มันยากที่จะโกรธพ่อแม่ตอนที่มีชีวิตอยู่ และยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะโกรธตอนที่พวกเขาตายไปแล้ว
.
“ยินยอม เห็นด้วย ขอโทษ ทำให้พอใจ และพึ่งพา”
คือ สิ่งที่คางคกใช้รับมือกับพ่อแม่มาตลอดชีวิต
.
ทุกครั้งที่คางคกเล่า …
#นกกระสาจะนั่งเงียบฟังอย่างตั้งใจ
เขาสัมผัสความเศร้าของคางคก..อย่างลึกซึ้ง
พยายามแบ่งรับ…ความทรงจำ
และรับรู้ความเศร้าของคางคก…ให้มากที่สุด
เท่าที่ใครคนหนึ่งจะสัมผัสความรู้สึกของอีกคนได้

สิ่งนี้คือ #ความเห็นอกเห็นใจ
คางคกรับรู้ได้ถึงความต้องการที่จะช่วยเหลือ
รับรู้ถึงความเข้าใจที่ได้รับจากนกกระสาได้
โดยที่ต้องนกกระสาแทบไม่ต้องเอ่ยอะไรออกมา
.
วิธีที่นกกระสาใช้ ไม่ใช่การสอนหรือสั่งให้คางคกต้องทำอะไร แต่เป็นการตั้งคำถามให้คางคกได้สำรวจตัวเอง ค้นหาและค้นพบคำตอบได้ด้วยตัวเอง
.
สุดท้าย…คางคกก็สามารถค้นพบตัวเอง ปลดปล่อยความรู้สึกผิด หยุดตัดสินวิจารณ์และโทษตัวเอง ค่อยๆเปลี่ยนมุมมองในการใช้ชีวิตใหม่ในแบบของเขา
.
“ความสนุก ความรัก ความโกรธ ความเศร้า และความกลัว”
คือ ความรู้สึกพื้นฐานของเด็ก ทั้งหมดจะรวมตัวเป็น “ส่วนสำคัญ” ของบุคลิกภาพในวัยเด็กของแต่ละคน
.
“พฤติกรรมตามธรรมชาติ” ของเด็กๆ จึงมักผสมผสานด้วยอารมณ์พื้นฐานเหล่านี้ แล้วจึงค่อยๆ เรียนรู้ พัฒนา ปรับตัวเป็นรูปแบบพฤติกรรมที่ซับซ้อนมากขึ้น #เปลี่ยนจากสถานะเด็กตามธรรมชาติเป็นเด็กที่ปรับตัวไปตามสิ่งแวดล้อม กลายเป็นตัวตนและเป็นส่วนหนึ่งที่จะกำหนดพฤติกรรมของคนๆหนึ่งไปตลอดชีวิต
.
ตอนเป็นเด็ก หากพ่อแม่มอบความรักให้ ลูกจะมีความสุข รู้สึกปลอดภัยและรู้จักที่จะรักตอบ เป็นตัวของตัวเอง มีอิสระในการแสดงออกด้านอารมณ์และความรู้สึกที่แท้จริง
.
แต่หากถูกพ่อแม่โกรธบ่อยๆ ลูกจะหวาดกลัว ไม่มีความสุข เศร้า กลัว วิตกกังวล หดหู่ และจะเรียนรู้วิธีการรับมือกับพ่อแม่ตามประสบการณ์ ปรับพฤติกรรมตนเองเพื่อเอาตัวรอด เก็บกด ไม่กล้าที่จะแสดงอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของตนออกมา
.
และเมื่อเจอเหตุการณ์เฉพาะที่แตกต่างกันไป #คนเราจะตอบสนองอัตโนมัติจากความรู้สึกพื้นฐานที่คุ้นเคยเหมือนกับตอนเป็นเด็กอีกครั้ง
.
เด็กที่รู้สึกไม่ได้รับความรักและการยอมรับจากพ่อแม่ มักรู้สึกไร้ค่า ตัวตนที่ไม่เคยดีพอ ไม่เป็นที่ต้องการ ไม่คู่ควรได้รับความรักจากใคร หวั่นไหวง่าย ขาดความมั่นคงทางใจอย่างรุนแรง มักละเลยความรู้สึกของตัวเอง ยินยอมผู้อื่นแม้ฝืนใจ ไม่กล้าที่จะปฏิเสธเพราะกลัวไม่ได้รับการยอมรับ
.
#ลูกคือกระจกสะท้อนพ่อแม่ ลูกที่ถูกวิจารณ์ ถูกกล่าวโทษและถูกตัดสินคุณค่าจากพ่อแม่บ่อยๆ จะเรียนรู้ที่จะกล่าวโทษ ตัดสินและวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น และน่าเศร้ายิ่งไปกว่านั้น #พวกเขาจะเรียนรู้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์กล่าวโทษและตัดสินคุณค่าของตัวเอง
.
#การรู้สึกเป็นที่รักและได้รับการยอมรับจากพ่อแม่
จึงเป็นสิ่งที่ลูกต้องการและขาดไม่ได้เลย ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข รักในสิ่งที่ลูกเป็นจะทำให้ลูกรู้สึกถึงคุณค่า ปลอดภัย และมีความมั่นคงทางใจ
.
พ่อแม่สามารถแสดงการยอมรับลูกได้ โดยการรับฟังทุกความรู้สึกของลูก ฟังอย่างเข้าใจและไม่ตัดสิน สอนให้ลูกเข้าใจและรู้จักการจัดการอารมณ์ของตนเอง
เพื่อที่เขาจะสามารถจัดการความรู้สึกและแก้ปัญหาของตัวเองได้ในทุกเหตุการณ์ของในชีวิตอย่างเหมาะสม
.
...รักษาความสัมพันธ์ระหว่างกันที่ดี
…รู้จักที่จะชื่นชมในข้อดีและความพยายามของลูก
…รักและยอมรับตัวตนของเขาได้อย่างเต็มหัวใจ
…ยังคงยืนเคียงข้างลูกด้วยความภูมิใจได้
…แม้ในวันที่เขาไม่ได้ดังใจ ไม่เก่ง ผิดพลาดหรือล้มเหลวก็ตาม
.
ในฐานะแม่คนหนึ่ง มัมมี่B เชื่อว่า พ่อแม่ที่รักลูกทุกคนต่างพยายามทำดีที่สุดแล้วเท่าที่จะสามารถทำได้ในช่วงเวลานั้น
.
พ่อแม่แต่ละคนเติบโตมาแตกต่างกัน จึงมีค่านิยม ความเชื่อที่ต่างกัน เรามักเรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเองในอดีต แสดงความรักและความหวังดีต่อลูกด้วยวิธีที่เราเชื่อหรืออาจถูกสอนและถูกกระทำมาจนเกิดความเคยชิน
.
หรือแม้แต่ตัวพ่อแม่เองก็อาจมีบาดแผลในใจที่ซ่อนอยู่ แทรกซึมและส่งผ่านความเจ็บปวดให้ลูกต่อโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว
.
เพียงเปิดใจและยอมรับว่า #ทุกคนบนโลกใบนี้คือคนธรรมดาที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ และ #พ่อแม่ก็คือคนธรรมดาที่ทำผิดและพลาดได้ ยอมรับ ปลดปล่อยและให้อภัยตัวเอง
.
ปล่อยวางและอภัยให้กับใครคนนั้น..
คนที่เคยสร้างบาดแผลให้เราโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
.
อดีตไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่เราทุกคนสามารถรวบรวมพลังใจเพื่อเรียนรู้และเริ่มต้นใหม่ แก้ไข ทำวันนี้ให้ดีขึ้นเท่าที่ทำได้ ด้วยความรัก ความเข้าใจ ความพยายามและความตั้งใจ สามารถเยียวยาทุกบาดแผลในใจให้หายได้อย่างแน่นอน
.
Net PAMA ขอเป็นกำลังกำลังใจให้กับทุกครอบครัวนะคะ 
.
สำหรับพ่อแม่ที่ต้องการเรียนรู้การเลี้ยงลูกเชิงบวกเพื่อ #สร้างวินัยแบบเข้าใจ และ #สร้างความสัมพันธ์ที่อบอุ่นกับลูก สามารถลงทะเบียนเรียนฟรีได้ที่ https://www.netpama.com/
.
คอร์สเรียนของเราถูกออกแบบโดยจิตแพทย์และนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น มีทั้งคลิปวิดีโอเรื่องราวต่าง ๆ ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้ได้จริง โดยเรียนฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ!

Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก

Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม
.
#nanmeebooks #readandlearn #โรคซึมเศร้า #NetPAMA #ลูกซึมเศร้า