window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-HT69D45H8X');

เรากำลังเหนื่อยและทุกข์ใจกับการเป็นพ่อแม่อยู่หรือเปล่า ?

เมื่อ 11 เดือนที่แล้ว

วันที่เป็นพ่อแม่ เราอยากทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เลี้ยงลูกให้เติบโตมาเป็นคนดี ดูแลตัวเองได้และประสบความสำเร็จในชีวิต 


แต่การสอนลูกกลับทำให้เรากลายเป็น พ่อแม่ขี้บ่น

ความใส่ใจที่มีให้กลับกลายเป็น พ่อแม่ที่ชอบจับผิด

พูดดีๆ ไม่ฟัง พอเสียงดังหรือลงโทษกลายเป็น พ่อแม่เจ้าอารมณ์

อยากช่วยแก้ปัญหาแต่ลูกกลับมองว่า  พ่อแม่ก้าวก่าย

อยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี กลับกลายเป็น พ่อแม่จอมบงการ


ยิ่งทำ ยิ่งทุ่มเท ผลลัพธ์กลับทำให้ยิ่งเหนื่อย ทั้งๆที่รักและหวังดีกับลูกขนาดนี้ แต่ลูกดูเหมือนไม่เข้าใจที่สอน ไม่รับรู้ถึงความหวังดีที่พ่อแม่มีให้ ความสัมพันธ์ระหว่างกันนับวันยิ่งถดถอยลงทุกที


เพราะการเลี้ยงลูกไม่มีสูตรสำเร็จ เด็กแต่ละคนแตกต่างกัน วิธีที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนจึงต่างกัน หากวิธีที่ทำอยู่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยกับความเป็นพ่อแม่การศึกษาเรื่อง “การเลี้ยงลูกเชิงบวก” อาจสามารถช่วยแก้ปัญหาได้



การเลี้ยงลูกเชิงบวก(Positive Parenting) คือการเลี้ยงลูกโดยใช้ความรัก ความเข้าใจเป็นตัวตั้ง เป็นการทำความเข้าใจถึงการทำงานของสมองและธรรมชาติที่ต่างกันของเด็กแต่ละคนในแต่ละช่วงวัย ซึ่งถูกพิสูจน์ข้อเท็จจริงด้วยงานวิจัยรองรับมากมาย 


หัวใจสำคัญของการเลี้ยงลูกเชิงบวก คือการ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ลูก โดยการฝึกการใช้สติและเหตุผลนำหน้าอารมณ์ของพ่อแม่ ไปพร้อมกับ การสร้างวินัยกฎกติกาในแต่ละช่วงวัยให้กับลูก ทำจนเป็นกิจวัตรเพื่อให้ลูกเกิดความเคยชินจนกลายเป็นนิสัย
( ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก บทที่ 1 ปัจจัยต่างๆในการปรับพฤติกรรมลูก www.netpama.com )


การเข้าใจไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่ต้องตามใจลูก เมื่อลูกไม่ทำตามข้อตกลงกฎและกติกา เราจะ “ใจดีแต่ไม่ใจอ่อน” (Kind but firm) โดยจะสะท้อนความรู้สึกของลูกเพื่อให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่เข้าใจเขา แต่ก็ยังคงหนักแน่นในความถูกต้อง ยึดตามกฎและกติกาที่ตกลงกันไว้ 


แทนที่การใช้อารมณ์ต่อว่าหรือทะเลาะกับลูก ด้วยการบอกถึงอารมณ์และความรู้สึกรวมถึงความต้องการของพ่อแม่ ด้วยเทคนิคป๊าม๊าแมสเสจ ( I- message ) ทำให้ลูกไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกตำหนิ จึงอยากร่วมมือและลดการต่อต้า( ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก บทที่ 2 เทคนิคการสื่อสาร www.netpama.com )


การเลี้ยงลูกเชิงบวกจะเน้น การจับถูกและลดการจับผิด ทำให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่นั้นเห็นคุณค่าในตัวเขาเสมอเพื่อให้ลูกเห็นคุณค่าในตัวเอง (Self Esteem) ทำได้ด้วยการชมลูกด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยชมไปที่พฤติกรรมมากกว่าผลลัพธ์  ทำให้ลูกอยากที่จะทำดีต่อ พยายามเองโดยไม่ต้องบังคับ ไม่ทำให้ลูกเหลิง เพราะพ่อแม่เห็นคุณค่าและความตั้งใจในสิ่งที่เขาทำเสมอ แม้สิ่งนั้นจะยังไม่สำเร็จก็ตาม
( ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก บทที่ 3 เทคนิคการชม www.netpama.com )


เมื่อลูกทำผิด เราจะพูดคุยสอนด้วยความเข้าใจมากกว่าใช้การลงโทษ แต่หากลูกยังคงไม่ทำตามกฎกติกา การลงโทษเชิงบวกจะทำให้ลูกเข้าใจถึงเหตุและผล โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรงและไม่สร้างบาดแผลทางใจให้ลูก เช่น การกำหนดกฎและกติการวมถึงผลที่จะเกิดขึ้นร่วมกันกับลูกหากเขาไม่ทำตามข้อตกลง ชมลูกทันทีเมื่อลูกทำตามกติกา ทำให้ลูกยอมรับผลเพราะเป็นการตกลงร่วมกัน
( ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก บทที่ 5 เทคนิคการลงโทษ www.netpama.com )


แทนที่การต้องสั่งให้ทำหรือพร่ำบ่นจนกระทบถึงความสัมพันธ์ด้วย 'เทคนิคการให้รางวัล' เช่น ชมลูกทันทีเมื่อลูกทำดีเพื่อกระตุ้นพฤติกรรมดี หรือใช้ 'เทคนิคตารางให้คะแนน' โดยตั้งกติกาในสิ่งที่อยากให้ลูกทำเพิ่ม หรือลดพฤติกรรมใดๆ ลง เก็บเป็นคะแนนสะสมเมื่อลูกทำได้ เพื่อแลกของรางวัลที่ได้ตกลงกับลูกไว้ล่วงหน้า
(ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก บทที่ 4 เทคนิคการให้รางวัล และ บทที่6 เทคนิคการทำตารางให้คะแนน www.netpama.com )


ข้อดีของการเลี้ยงลูกเชิงบวก ไม่เพียงส่งผลด้านความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ระเบียบวินัยที่สร้างขึ้นจากพื้นฐานความเข้าใจกับลูก จะทำให้ลูกเข้าใจพ่อแม่ รับฟังเหตุผล สามารถรับผิดชอบตัวเองทั้งในด้านการเรียนและด้านอื่นๆ ได้ดี เข้าใจและสามารถควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมตัวเองได้ รู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้คุณค่าในตัวเอง สามารถตั้งเป้าหมายและพยายามหาวิธีไปให้ถึงได้ด้วยตัวเอง หากล้มแล้วก็จะสามารถลุกขึ้นเดินต่อจนกว่าจะสำเร็จ เพราะพ่อแม่นั้นชื่นชมและให้คุณค่าในความพยายามของเขามาตลอด


“หากเลี้ยงลูกด้วยอารมณ์เราจะได้ลูกที่ชอบใช้อารมณ์ เมื่อเลี้ยงลูกด้วยความรักและเหตุผลเราจะได้ลูกที่เติบโตด้วยความรักอ่อนโยนและมีเหตุผลเช่นกัน”


การเลี้ยงลูกด้วยความรักที่ถูกวิธีจะทำให้ลูกเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันหน้าและคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ทำให้เราและลูกมีรอยยิ้มและความสุขไปด้วยกันได้ในทุกช่วงของการเติบโต


สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเรียนรู้การเลี้ยงลูกเชิงบวกแบบ #คอร์สonline เพื่อสร้างระเบียบวินัยให้ลูกและความสัมพันธ์ที่ดีภายในบ้าน ทั้งหมดได้ถูกรวบรวมไว้ในคอร์สจัดเต็ม ซึ่งจัดทำโดยทีมจิตแพทย์เด็กและนักจิตวิทยา ที่ www.netpama.com มีทั้งคลิปวีดิโอเรื่องราว ตัวอย่างคำพูดที่สามารถนำไปใช้เลยได้จริง โดยเรียนฟรี!ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ 


ส่วนคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเรียนแบบคอร์สonsite เพื่อที่จะ

???? ได้เรียนกับจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นและผู้เชี่ยวชาญโดยตรง 

???? ได้ทำ workshop ร่วมกับพ่อแม่ท่านอื่นเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน ลงมือปฎิบัติและฝึกฝนจริงเพื่อเพิ่มความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น

???? หากมีคำถามหรือข้อสงสัยสามารถปรึกษาและได้รับคำตอบจากจิตแพทย์ในคลาสได้ทันที

แนะนำเป็นคอร์สเรียน Onsite  “ห้องเรียนป๊าม๊าเปลี่ยนลูก” โดยสามารถดูรายละเอียดและค่าใช้จ่ายได้ใน comment ด้านล่างนี้


เพราะการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกันกับลูกนะคะ  ♥️


บทความโดย มัมมี่Bชวนเมาท์

Positive Parenting Anywhere Anytime มาเลี้ยงลูกเชิงบวกกับ 'เน็ตป๊าม้า' หลักสูตรออนไลน์สอนเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กเชิงบวก

Empower Families, Enrich Societies
เสริมพลังครอบครัว, สร้างพลังสังคม

#เลี้ยงลูกเชิงบวก

หมวดหมู่ทั้งหมด

NET PAMA