window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-HT69D45H8X');
คงมีบางวันที่รู้สึกผิดในชีวิตการเป็นพ่อแม่
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
หลายๆครั้งเวลาที่หมอทำงาน จะมีกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ที่มาปรึกษาเกิดความรู้สึกผิด เพราะสิ่งที่ผ่านมาแล้วอยู่บ่อยๆ
.
เช่น รู้สึกว่าที่ผ่านมามีเวลาดูแลลูกไม่เพียงพอ คิดว่าคงเป็นเพราะการเลี้ยงดูของตัวเองที่ทำให้ลูกมีปัญหา ฯลฯ
.
หมอก็จะบอกเสมอว่า การที่คุณพ่อคุณแม่เกิดความรู้สึกเช่นนี้ เป็นเพราะความรักลูก ถ้าไม่รักและไม่สนใจ ก็คงไม่เกิดความรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง
.
ในความเป็นจริง ความรู้สึกผิดก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลง ดีกว่าการคิดว่าสิ่งที่ทำมาถูกต้องดีแล้ว ทั้งที่จริงๆยังต้องการการปรับปรุงแก้ไข
.
"You gotta let go of that stuff from past, because it just doesn't matter. The only thing that matters is what you choose to be now."
"เธอต้องปล่อยวางสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เพราะมันผ่านไปแล้ว สิ่งสำคัญก็คือ ตอนนี้เธอเลือกจะทำอะไรและเป็นแบบไหน"
.
เป็นคำพูดตอนหนึ่งจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้าภาคสอง หมอคิดถึงคำพูดนี้เพราะได้ฟังเรื่องราวของคุณแม่คนหนึ่ง คุณแม่พาลูกมาตรวจเพราะลูกชายอายุสามขวบกว่าๆแล้วยังพูดได้เป็นคำๆ ถามตอบพอได้สั้นๆ แต่ยังไม่เป็นประโยคเท่าไหร่ ที่ผ่านมาคุณแม่คิดว่าลูกคงปกติดี เพราะพ่อของเด็กก็มีประวัติพูดช้าเหมือนกัน คุณย่าของเด็กบอกคุณแม่ว่า "หลานชายเป็นเด็กปากหนัก โบราณว่าเด็กแบบนี้จะเป็นเจ้าคนนายคน ไม่ต้องห่วง ยังไงก็ต้องพูดได้" และเพราะเป็นลูกคนแรก ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน คุณแม่จึงคิดว่าลูกคงจะปากหนักอย่างที่คุณย่าบอก ส่วนคุณปู่บอกให้เธอไปหาซื้อกบมาตบปาก ลูกจะพูดได้
.
ยังไม่ทันได้ไปหากบ วันหนึ่งคุณแม่พาเด็กไปตรวจที่โรงพยาบาลด้วยอาการมีไข้ ไอ เจ็บคอ คุณหมอบอกว่าลูกของเธอเป็นหวัด ก็รักษาตามอาการตามเรื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่คุณหมอบอกก็คือ ลูกของเธอสามขวบแล้วพูดได้เป็นคำๆแบบนี้ ถือว่าพูดช้า ให้เธอรีบพาลูกไปรับการประเมิน ตอนแรกหมอส่งลูกของเธอไปตรวจหู ดูว่าได้ยินเสียงดีหรือเปล่า เพราะบางที ลูกก็เหมือนกับไม่สนใจเวลาคนเรียกชื่อ ก็พบว่าได้ยินเป็นปกติ หมอบอกให้ลองไปตรวจกับจิตแพทย์เด็กดู
.
คุณแม่จึงได้พาลูกมาตรวจกับจิตแพทย์เด็ก จากการตรวจพบว่า ลูกชายมีภาวะออทิสติก คุณแม่รู้สึกเสียใจ ได้แต่โทษตัวเองที่ไม่ได้พาลูกมาพบหมอให้เร็วกว่านี้ ด้วยความรักและเป็นห่วงลูก บางครั้งก็ทำให้อารมณ์ความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นมีอิทธิพลมากกว่าเหตุผลตามความเป็นจริง
.
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ความผิดของคุณแม่ที่ไม่ได้พาลูกมาพบหมอให้เร็วกว่านี้ แต่เพราะคุณแม่ไม่รู้ และอาการของลูกก็ไม่ได้ชัดเจน แถมคนรอบข้างก็คิดไปในทางเดียวกันว่าลูกของเธอไม่ได้เป็นอะไร ทุกอย่างล้วนมีเหตุและปัจจัย และส่วนใหญ่ปัจจัยไม่ใช่มาจากใครคนหนึ่ง หรืออะไรอย่างหนึ่ง
.
หมอเชื่อว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่รักลูก เป็นห่วงลูก ไม่มีใครตั้งใจให้เกิดเรื่องที่ไม่ปกติกับลูกความรู้สึกแย่ รู้สึกผิด เป็นความรู้สึกปกติธรรมดา ไม่ต้องไปห้ามหรือฝีน ให้ยอมรับความรู้สึกนั้น แต่ที่สำคัญคือ อย่าให้ความรู้สึกนั้นมันบั่นทอนตัวเราเองจนท้อแท้และไปต่อไม่ได้ เพราะมันจะมีผลกระทบกับคนที่เราต้องดูแล โดยเฉพาะลูกๆ
.
สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ แม้ว่าจะทำใจยาก แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเป็นชีวิตที่ต้องดำเนินไปในทุกวัน ตอนหลังลูกชายคุณแม่ได้รับการกระตุ้นพัฒนาการ ฝึกพูด อาการก็ดีขึ้น สามารถเรียนร่วมกับเด็กปกติได้ พูดได้เกือบเหมือนเพื่อนๆวัยเดียวกัน แต่ยังมีปัญญาการเข้าสังคมบ้าง
.
เป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกคน เป็นธรรมดาที่ชีวิตการเป็นพ่อแม่ ที่อาจมีบางวันที่รู้สึกผิด

บทความโดย พญ.เบญจพร ตันตสูติ
ภาพประกอบ ศิรภัสสร เย็นจิตต์, ณัฏฐธิดา สุวรรณโยธิน
NET PaMa